พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมนักธุรกิจอิหร่าน โกงเพื่อนร่วมชาติ ฮุบขายที่ดินบริษัท ความเสียหายมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท และรวบหนุ่มใหญ่ออสซี่ โยงคดีเก่ามาเฟียในภูเก็ต หนีกบดานหมู่บ้านหรูกลางเมืองพัทยา พบประวัติอาชญากรรมเพียบในออสเตรเลีย

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมนักธุรกิจอิหร่าน โกงเพื่อนร่วมชาติ ฮุบขายที่ดินบริษัท ความเสียหายมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท และรวบหนุ่มใหญ่ออสซี่ โยงคดีเก่ามาเฟียในภูเก็ต หนีกบดานหมู่บ้านหรูกลางเมืองพัทยา พบประวัติอาชญากรรมเพียบในออสเตรเลีย

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมนักธุรกิจอิหร่าน โกงเพื่อนร่วมชาติ ฮุบขายที่ดินบริษัท ความเสียหายมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท และรวบหนุ่มใหญ่ออสซี่ โยงคดีเก่ามาเฟียในภูเก็ต หนีกบดานหมู่บ้านหรูกลางเมืองพัทยา พบประวัติอาชญากรรมเพียบในออสเตรเลีย

เมื่อเวลา 13:30 น.วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2567 ณ ห้องสวนพลู (ห้องแถลงข่าว) ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงชัย ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ท.ภาณุวัฒน์ ใจเที่ยงแท้ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ท.อิธิธร ประเสริฐศักดิ์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ท.วิรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ 2 คดี ดังนี้
[ คดีที่ 1 ] รวบนักธุรกิจอิหร่าน โกงเพื่อนร่วมชาติ ฮุบขายที่ดินบริษัท ความเสียหายมูลค่ากว่า 21 ล้านบาท

กก.สส.บก.ตม.3 จับกุม MR.ABUL (นามสมมติ) อายุ 61 ปี สัญชาติอิหร่าน ตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรี ที่ จ.236/2567 ลง 20 พ.ค.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน แจ้งความเท็จ, แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ, ลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัท เพื่อลวงให้ห้างหุ้นส่วน บริษัท ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้น ขาดประโยชน์อันควรได้ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จว.ชลบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งย่าน ถ.ร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา จว.ชลบุรี ให้ดำเนินคดีกับ MR.ABUL (นามสมมติ) อายุ 61 ปี สัญชาติอิหร่าน โดยแจ้งว่า MR.ABUL ได้แก้ไขข้อความอันเป็นเท็จลงในบันทึกรายงานการประชุมของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเขตยานนาวา กรุงเทพฯ เพื่อให้ตนเองมีอำนาจขายที่ดินของบริษัทซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีราชา จว.ชลบุรี ในนามของ MR.ABUL ได้ ทำให้บริษัทรวมถึงหุ้นส่วนของบริษัทได้รับความเสียหาย มูลค่ากว่า 21 ล้านบาท หลังจากขายแล้วได้บ่ายเบี่ยงว่าตนไม่ทราบและหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความต่อมาพนักงานสอบสวน ตลอดจนประสานข้อมูลกับทาง กก.สส.บก.ตม.3 จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดชลบุรี ออกหมายจับ MR.ABUL ในความผิดฐาน แจ้งความเท็จ, แจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารมหาชน หรือเอกสารราชการ, ลงข้อความเท็จในเอกสารของบริษัท เพื่อลวงให้ห้างหุ้นส่วน บริษัท ผู้เป็นหุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้น ขาดประโยชน์อันควรได้ นั้น
ต่อมา กก.สส.บก.ตม.3 สืบทราบว่า MR.ABUL ได้หลบหนีหมายจับมาซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งย่าน ถ.ร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ จึงไปตรวจสอบจนพบตัวอยู่ที่ดังกล่าวจริง จนท.ชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวและหมายจับเข้าจับกุม MR.ABUL นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ศรีราชา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
[ คดีที่ 2 ] รวบหนุ่มใหญ่ออสซี่ โยงคดีเก่ามาเฟียในภูเก็ต หนีกบดานหมู่บ้านหรูกลางเมืองพัทยา พบประวัติอาชญากรรมเพียบในออสเตรเลีย

กก.สส.บก.ตม.3 ควบคุมตัว Mr.Grey (นามสมมติ) อายุ 52 ปี สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร เนื่องจากเป็นผู้มีพฤติการณ์เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมชาวต่างชาติ ในพื้นที่ จว.ภูเก็ต สร้างความเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่ และเป็นผู้มีประวัติอาชญากรรมเคยก่อเหตุมีโทษจำคุกที่ออสเตรเลียในคดียาเสพติดและความผิดอื่นๆ ที่เป็นภัยต่อสังคม รวมทั้งมีหมายจับในข้อหาลักลอบค้าสารเสพติดและมีสารเสพติด ไว้ในครอบครอง นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
สืบเนื่องจาก สภ.ฉลอง จว.ภูเก็ต ได้ทำการจับกุมตัวชายชาวอังกฤษพกพาอาวุธปืนเข้าผับ ต่อมาจากการสืบสวนขยายผลพบว่า Mr.Grey มีพฤติการณ์เชื่อมโยงกับเครือข่ายอาชญากรรมชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวในพื้นที่ จว.ภูเก็ต ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวต่างชาติในพื้นที่ จึงได้ร่วมกับ ตม.จว.ภูเก็ต สืบสวนจนปรากฏข้อมูลเพิ่มเติมว่า Mr.Grey เป็นบุคคลผู้มีประวัติอาชญากรรม และมีโทษจำคุกที่ออสเตรเลียหลายคดี ทั้งคดียาเสพติดและความผิดอื่นๆ ที่เป็นภัยต่อสังคม รวมทั้งมีหมายจับที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ในประเทศออสเตรเลียในข้อหาลักลอบค้าสารเสพติดและมีสารเสพติดไว้ในครอบครอง จึงได้รายงานพฤติการณ์ดังกล่าวของ Mr.Grey ไปยังกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ บก.ตม.6 เพื่อพิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522
ต่อมาจากการพิจารณาของ บก.ตม.6 เห็นว่า Mr.Grey มีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคมหรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร หรือเป็นบุคลซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศได้ออกหมายจับ จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ Mr.Grey ต่อมา Mr.Grey ได้ไหวตัวและหลบหนีออกจากพื้นที่ จว.ภูเก็ต ภายหลัง กก.สส.ตม.3 ได้สืบสวนจนกระทั่งทราบว่าได้มาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จว.ชลบุรี จึงใช้เทคนิคทางการสืบสวนจนพบว่า Mr.Grey หลบมาพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จึงได้เข้าแจ้งการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (ตม.83) และควบคุมตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม.เพื่อดำเนินการตามกระบวนการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรและขึ้นบัญชีเป็นคนต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรต่อไป
# สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า