ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ทล.5.กก.1 บก.ทล.(เพชรบูรณ์) จับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ทล.5.กก.1 บก.ทล.(เพชรบูรณ์) จับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ

ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ทล.5.กก.1 บก.ทล.(เพชรบูรณ์) จับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ

โดยการอำนวยการของ
พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.รรท.รอง ผบก.บก.ทล, พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง ผกก.1 บก.ทล , พ.ต.ท.วรบดินทร์ เลิศศุภสินสถิต สว.ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล. และหน่วยบริการตำรวจทางหลวงศรีเทพ บูรณาการร่วมกับ สภ.ชัยบาดาล จับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ โดยมีผลปฏิบัติดังนี้
[ 1 ] วันที่ 1 มี.ค. 67 เวลาประมาณ 20.30 น.
[ 2 ] สถานที่จับกุม บริเวณภายในโรมแรมชาญเวช หมู่ที่ 1 ตำบลลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
[ 3 ] ผู้ต้องหา จำนวน 12 ราย ดังนี้
3.1 นายธนากูล แซ่ย่าง อายุ 40 ปี เลขประจำตัวประชาชน 3-6301-00400-69-7 อยู่บ้านเลขที่ 69/4 หมู่ที่ 5 ตำบลนาโบสถ์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก สัญชาติ ไทย
3.2 Mr.Fao Ja ( นายเฟ้าจะ ) อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.3 Mr.Nai ( นายนาย ) อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.4 Mr.Mall ( นายมอล ) อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.5 Mr.Mui Lit ( นายมุยลิด ) อายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.6 Mr.Su ( นายสุ ) อายุ 35 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.7 Miss.Sa Be ( นางสาวสะเบ ) อายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.8 Miss.Jee Jee ( นางสาวจีจี้ ) อายุ 32 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.9 Miss.Por Or Cho ( นางสาวพ่อออโฉ่ ) อายุ 19 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.10 Miss.Ei Ei Piw Jor ( นางสาวอีอีพิวเจาะ ) อายุ 22 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.11 Miss.Vee Vee Nui ( นางสาววีวีนูย ) อายุ 18 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3.12 Miss.Me Sui Mo ( นางสาวมี่สุ่ยโม ) อายุ 20 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
[ 4 ] พร้อมด้วยของกลาง
4.1 รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ตห 8727 กรุงเทพมหานคร
4.2โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO สีดำ หมายเลขเบอร์โทร 062-216-9784 จำนวน 1 เครื่อง
4.3โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ SAMSUNG สีเทา หมายเลขเบอร์โทร 061-184-5641 จำนวน 1 เครื่อง
[ 5 ] โดยกล่าวหาว่า
5.1 ผู้ต้องหาที่ 1
1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
3.ขัดคำสั่ง เจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ
5.2 ผู้ถูกจับที่ 2-12
เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
[ 6 ] พฤติการณ์ ด้วยเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมตามรายชื่อดังกล่าวข้างต้นได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาซึ่งให้กวดขันผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ต่างๆ และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ บนทางหลวงและการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งตามวันเวลาดังกล่าว เจ้าพนักงานตรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งสายสายลับ(ขอปิดนามและขอรับเงินรางวัลในการแจ้งจับในครั้งนี้) ได้แจ้งว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยได้มาจากจังหวัดกำแพงเพชร มุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี โดยใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจสอบเส้นทางดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขณะเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่มาถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 21 กิโลเมตรที่ 87-88 ตำบลคลองกระจัง อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ตห 8727 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถคันเดียวกันกับที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขับผ่านมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจชุดจับกุมเห็นดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและได้ให้สัญญาณไฟวับวาบกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงไซเรนส์ รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่เมื่อรถคันดังกล่าวได้พบเห็นรถยนต์ตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามมาและได้เห็นสัญญาณไฟรวมถึงเสียงคำสั่งเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถ จึงได้ขับหลบหนีด้วยการเพิ่มความเร็ว โดยขับหลบหนีไปตามถนนหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวอำเภอชัยบาดาล ในขณะที่มีรถยนต์ของประชาชนผู้สัญจรไปมาจำนวนมาก โดยได้ใช้ความเร็วประมาณ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากบริเวณบ้านคลองกระจัง ตำบลคลองกระจัง อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ จนไปถึงถึงบริเวณตำบลลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี รวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับขี่หลบหนีด้วยความเร็วแซงซ้ายแซงขวารถคันอื่นมีการเปลี่ยนช่องทางเดินรถกะทันหันเป็นการขับขี่รถ โดยประมาทหรือน่าหวาดเสียวไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นเป็นการกระทำที่สร้างความวุ่นวายและตื่นตระหนกตกใจขึ้นในที่สาธารณะรวมถึงอาจทำให้สุจริตชนได้รับอันตรายจากการกระทำของตน โดยก่อนจะถูกจับกุมรถคันดังกล่าวได้หักเลี้ยวหลบกระทันหันทำให้รถยนต์ของประชาชนซึ่งสัญจรอยู่เสียหลักพุ่งเข้าชนกับรถตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ(ซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหายบริเวณด้านข้างตัวรถฝั่งขวา) และทำให้รถยนต์ของประชาชนได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้าตัวรถฝั่งซ้ายมือ จากนั้นรถยนต์คันดังกล่าวได้ขับหลบหนีต่อไปจนกระทั่งถึงบริเวณโรมแรมชาญเวช หมู่ที่ 1 ตำบลลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นทางตันทำให้รถยนต์คันดังกล่าวไม่สามารถหลบหนีต่อไปได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายธนากูล แซ่ย่าง อายุ 40 ปี เลขประจำตัวประชาชน 3-6301-00400-69-7 อยู่บ้านเลขที่ 69/4 หมู่ที่ 5 ตำบลนาโบสถ์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก (ทราบชื่อ-นามสกุลจริงภายหลัง)เป็นผู้ขับขี่รถยนต์บรรทุก ส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ตห 8727 กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้ถูกจับที่ 2-12 นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำผู้ถูกจับและรถยนต์ คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจภูธรชัยบาดาล ภ.จว.ลพบุรี พบว่า ผู้ถูกจับที่ 2 – 12 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบถาม ผู้ถูกจับที่ 1 ให้การว่าได้ไปรับแรงงานต่างด้าว(ผู้ถูกจับที่ 2 – 12) ที่บริเวณริมถนนข้างทาง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร โดยได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 10,000 บาท ผู้ถูกจับที่ 1 รับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริงและตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง (ตลาดไท จังหวัดปทุมธานี) จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบโดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง สอบถามผู้ถูกจับที่ 2 – 12 ผ่านนางสาวจีจี้ (ผู้ถูกจับที่ 8) ซึ่งสามารถสื่อสารภาษาไทยได้เป็นอย่างดีให้การยอมรับว่า ตนเองพร้อมพวกจำนวน 11 คน ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 19,0000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 “ 1.รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม , 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น , 3.ขัดคำสั่ง เจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควรฯ ผู้ถูกจับที่ 2 – 12 “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรชัยบาดาล ภ.จว.ลพบุรี พร้อมกันนี้เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายประจำสำนักงานอัยการ จังหวัดชัยบาดาลทราบฯ ถึงการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน

คุณ ศุภผล จริงจิตร


ผอ.ภ.6 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน รายงาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า