ตำรวจสอบสวนกลาง ส.ทล.5.กก.1 บก.ทล เพชรบูรณ์ ขับรถไล่ล่า จับขนแรงงานเถื่อนสัญชาติเมียนมาร์
เวลาประมาณ 11.25 น.วันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2567 ณ บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 117 กิโลเมตรที่ 47 ม.4 ต.โพธิ์ไทรงาม อ.บึงนาราง จ.พิจิตร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.5.กก.1 บก.ทล.เพชรบูรณ์ ได้ขับรถไล่สกัดจับรถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้อโตโยต้า รีโว่ 4 ประตูสีดำ หมายเลขทะเบียน งค- 7092 เชียงใหม่ โดยก่อนหน้าเจ้าพนักงานตรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งสายสายลับ (ขอปิดนาม) ได้แจ้งว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยได้รับมาจาก จ.ตาก มุ่งหน้าเข้าสู่ จ.นครสวรรค์ และใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 117 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจสอบเส้นทางดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขณะเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่มาถึงบริเวณ ทางหลวงหมายเลข 117 กิโลเมตรที่ 47 ต.โพธิ์ไทรงาม อ.โพธิ์ไทรงาม จ.พิจิตร ได้พบรถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถยนต์ปิคอัพ หมายเลขทะเบียน งค 7092 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถคันเดียวกันกับที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขับผ่านมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจชุดจับกุมเห็นดังกล่าวจึงได้แสดงตัวและได้ให้สัญญาณไฟวับวาบกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงไซเรนส์รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด เมื่อรถยนต์ตู้คันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบทราบชื่อผู้ขับขี่คือ นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชน ม.4 ต.โมโกร อ.อุ้มผาง จ.ตาก เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ตู้คันดังกล่าว โดยพบว่าภายในรถมีแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ จำนวน 9 ราย โดยมี
1.Mr.Wang
2.Mr.Arzee
3.Mr.Suk
4.Mr.Some
5.Mr.Shae
6.Miss Sarita
7.Miss Demavee
8.Miss Shap
9.Miss Pashe
โดยไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถามผู้ถูกจับให้การว่าตนเองได้ไปรับแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ จาก อ.เมืองตาก จ.ตาก เพื่อนำไปส่ง จ.นครสวรรค์ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบภายในรถคันดังกล่าว พบผู้ถูกจับที่ 2-10 นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เข้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ถูกจับ 1-10 รถยนต์คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.บึงนาราง ภ.จว.พิจิตร พบว่าผู้ถูกจับที่ 2-10 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใด ที่จะแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจากการสอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การว่าได้ไปรับแรงงานต่างด้าว (ถูกจับที่ 2 ถึง 10) ที่บริเวณริมถนนข้างทาง อ.เมือง จ.ตาก โดยได้รับค่าจ้างคนละ 6,000 บาท ผู้ถูกจับที่ 1 รับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริงและตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จ.นครสวรรค์ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบโดยตนนั้น ได้กระทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง สอบถามผู้ถูกจับที่ 2-10 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาร์ให้การยอมรับว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติและเดินเข้ามาในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบ “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางดังกล่าวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บึงนาราง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร พร้อมกันนี้เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายประจำสำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตรทราบฯ ถึงการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 แล้ว
การจับกุมในครั้งนี้ อยู่ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.รรท.รอง ผบก.บก.ทล, พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง ผกก.1 บก.ทล, พ.ต.ท.วรบดินทร์ เลิศศุภสินสถิต สว.ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล.
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน
คุณ ศุภผล จริงจิตร
ผอ.ภ.6 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน รายงาน