‘คุณหญิงกอแก้ว’เปิดหลักฐานคำพิพากษาศาลสูงฮ่องกงได้หุ้นวินด์ถูกต้อง-สั่งห้าม’เกษม’ฟ้องซ้ำ
เมื่อเวลา 09:00 น.วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2564 ณ ศาลอาญากรุงเทพใต้ เลขที่ 1721/1 ซอยเจริญกรุง 63 ถนน เจริญกรุง แขวง ยานนาวา เขต สาทร กรุงเทพมหานคร คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา พร้อมนายวิญญัติ ชาติมนตรี (ทนายความ) ได้เดินทางไปยังศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามที่ศาลนัดหมาย จากการสอบถามของทางสื่อมวลชนที่ไปติดตามความคืบหน้า โดย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายของทาง คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีความ ที่เกี่ยวโยงกับการฟ้องร้องระหว่าง นายเกษม ณรงค์เดช รวมถึงคุณหญิงกอแก้ว และบริษัท วินด์ เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด หรือ WEH ว่า เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2562 ที่ศาลสูงฮ่องกงได้ตัดสินคดีที่นายเกษมฟ้องเรื่องการกล่าวหาว่า คุณหญิงกอแก้วฯ ปลอมลายเซ็นต์ โดยมีคำพิพากษาใจความสำคัญว่า “นายเกษมฯ ได้จงใจให้ข้อมูลเท็จต่อศาลในเรื่องมูลคดีที่แท้จริงของตน และเป็นไปได้ว่าการที่นายเกษมไม่เปิดเผยข้อมูลอย่างครบถ้วนและตรงไปตรงมา โดยไม่สุจริต วินิจฉัยประเมินค่าใช้จ่ายในคดี และให้โจทก์ต้องรับผิดชอบ ชำระค่าใช้จ่ายในการฟ้องคดี ในอัตราสูงสุด”
นายวิญญัติฯ ระบุและกล่าวว่า มีคำถามว่า นายเกษมฯ ได้ชดใช้ตามคำสั่งของศาลสูงให้แก่จำเลยทั้งหมด รวมเป็นเงินจำนวนประมาณ 18 ล้านเหรียญฮ่องกงแล้วหรือไม่ และคำสั่งห้ามมิให้ นายเกษมฯ ดำเนินคดีอื่นใดกับจำเลยทั้งสามอีก เพราะเมื่อพิจารณามูลคดีที่นายเกษมฯ ยกขึ้นต่อสู้ในขณะนี้ กล่าวคือ นายเกษมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในวินด์ เอนเนอร์ยี่ ย่อมไม่มีเหตุอันควรที่จะให้นายเกษมฯ มีสิทธิในการฟ้องคดีขึ้นใหม่ โดยอาศัยข้อกล่าวอ้างที่มีสารสำคัญว่า ได้มีการโอนหุ้นวินด์ เอนเนอร์ยี่ ไปจาก นายเกษมโดยมิชอบอีกต่อไป
นายวิญญัติฯ กล่าวต่ออีกว่า เหตุที่ไม่ได้นำเปิดเผยก่อนหน้านี้เพราะคิดว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว ก็ควรจะอยู่ภายในครอบครัว แต่ที่ผ่านมา สังคมอาจรับข้อมูลฝ่ายเดียวจากการใช้สื่อต่างๆ ซึ่งอาจทำลายชื่อเสียงของ คุณหญิงกอแก้วฯ มาโดยตลอด จึงจำเป็นต้องนำเอกสารหลักฐานความจริง ที่ศาลสูงฮ่องกงได้พิจารณามาแสดงความบริสุทธิ์ ส่วนคดีภายในประเทศไทยนั้น ในขณะนี้ นายเกษมฯ ฟ้องคุณหญิงและนายณพ ณรงค์เดช บุตรของตนเองต่อศาลไทย รวม 3 คดีด้วยกัน ซึ่งฟ้องในเรื่องเดียวกันทั้งหมด
โดยขณะนี้ทุกคดียังอยู่ในกระบวนการพิจารณา และยังไม่มีคดีใดถึงที่สุด เพราะฉะนั้นถือว่ายังไม่มีใครผิด จนกว่าจะมีคำพิพากษา และขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ระบบศาลไทยเป็นระบบกล่าวหา การถูกฟ้องก็อาจถูกมองว่าผิดหรือเป็นคนไม่ดี โดยความเป็นจริงนั้นต้องรอพิสูจน์กัน ในการฟ้องคดีกันนั้นใครก็สามารถทำได้ ส่วนเรื่องนี้แม้อัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดี แต่การพิสูจน์ต่อพยาน จำเป็นต้องให้โอกาสแก่จำเลย รับฟังพยานปราศจากข้อสงสัยของศาลอย่างถึงที่สุด คุณหญิงกอแก้วฯ เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม จึงเข้าแสดงความบริสุทธิ์ พร้อมนำหลักฐานต่อสู้กับข้อกล่าวหา และย้ำว่า วันนี้มาที่ศาลเพื่อเข้ากระบวนการยุติธรรม ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาเท่านั้น และยังไม่มีความผิดใด ขอใช้หลักฐานข้อเท็จจริงต่อสู้กันในกระบวนการตามกติกาจะดีกว่าการใช้สื่อจากบางแหล่งข่าว ให้ข้อมูลชี้นำ และบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้เข้าใจผิดในวงกว้าง จึงจำเป็นต้องนำเอกสารและข้อเท็จจริงมาแสดงความบริสุทธิ์ในวันนี้” นายวิญญัติ กล่าว