พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 แถลงผลจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หมกศพ พรางตัวใส่ 2 แว่น ใส่ฮู๊ดคลุมหัวและปิดหน้า

พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 แถลงผลจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หมกศพ พรางตัวใส่ 2 แว่น ใส่ฮู๊ดคลุมหัวและปิดหน้า

พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 แถลงผลจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หมกศพ พรางตัวใส่ 2 แว่น ใส่ฮู๊ดคลุมหัวและปิดหน้า

เวลา 14:00 น.วันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ.2567 ณ สภ.เมืองนนทบุรี ภ.จว.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี, พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.จิรายุส วานิชกุล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์หมกศพ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ.2567 เวลาประมาณ 19.34 น.นายไพศาล ทองอ่อน อายุ 54 ปี ถูกคนร้ายฆ่าตายในห้องพักภายในซอยงามวงศ์วาน 6 แยก 21 ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จากการสืบสวนทราบว่ามีคนร้ายจำนวน 1 คน ลักษณะปิดบังใบหน้าและรูปลักษณ์ ได้อยู่กับผู้ตายในคืนวันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2567 จากนั้นได้เข้าไปรื้อค้นรถยนต์ของผู้ตายและนำทรัพย์สินของผู้ตายไป จากการสืบสวนทราบภายหลังว่าคนร้ายได้นำโทรศัพท์ของผู้ตายไปขายที่ร้านโทรศัพท์มือสอง นำเงินในบัญชีของผู้ตายและบัตรเครดิตการ์ดของผู้ตาย ไปซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก จากนั้นคนร้ายได้เดินทางหลบหนีการจับกุมมาโดยตลอด โดยมีการเปลี่ยนชุด เปลี่ยนวิธีการเดินทาง เปลี่ยนแปลงลักษณะบุคคล บุคลิกท่าเดิน สำเนียงการพูด ลายมือ เป็นต้น เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ รวมถึงเดินทางไปหลายเส้นทางเพื่อปะปนกับผู้คนตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนจำนวนมาก จากการสืบสวนโดยละเอียดทำให้ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในคดีนี้คือ นายภูริณัฐ (สงวนนามสกุล) ที่อยู่ ซ.เพิ่มสิน 62 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับเลขที่ จ.490/2567 ลงวันที่ 31 พ.ค. 2567 ในความผิดฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร”
จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายภูริณัฐ (สงวนนามสกุล) หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ ม.4 ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร ชุดสืบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดชุมพร เพื่อขอหมายค้นบ้านเลขที่ดังกล่าว เมื่อทำการตรวจคันพบผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีพักอาศัยอยู่ภายในห้องพักภายในบ้าน พบของกลางรายการที่ได้ใช้และได้มาจากการกระทำความผิดจำนวน 31 รายการ เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.490/2567 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป และพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสารารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้นายภูริณัฐฯ ดู อ่านให้ฟัง และอ่านเอง ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน สอบถามให้การปฏิเสธ แต่รับว่ารู้จักกับผู้ตายมาก่อน โดยเป็นผู้ลงมือฆ่าผู้ตายเองแต่กระทำเพราะป้องกันตัวจากการทะเลาะกันภายในห้องพัก เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิ์ให้นายภูริณัฐฯ ทราบ จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมด้วยของกลาง อาทิเช่น ทองคำแท่งน้ำหนักรวม 28 บาท, พระเครื่องจำนวนหลายรายการซึ่งคาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต, บัตรเครดิตของผู้เสียชีวิตที่นำไปใช้ซื้อทองคำแท่ง, บัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียชีวิตและบุคคลอื่น ซึ่งใช้ในการปลอมแปลงตัวตนหลบเสี่ยงการติดตามพิสูจน์ทราบตัวบุคคลของเจ้าหน้าที่, รวมไปถึงซึมม้าและบัตรกดเงินสดอิเลคทรอนิศส์ของบัญชีม้าที่ผู้ต้องหาได้เตรียมการซื้อและเตรียมการไว้ก่อนก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบสวนหลังบ้านและบริเวณโดยรอบ พบเศษผ้าที่ผู้ต้องหาได้เผาทำลายเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุและวันที่ หลบหนี รวมถึงโครงเหล็กของกระเป๋าเดินทางใบที่ใช้เดินทางหลบหนีตามที่ปรากฎในภาพกล้องวงจรปิดในสถานที่ต่างๆ
ทั้งนี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ กรณีผู้ที่มีพฤติกรรมการก่อเหตุเกี่ยวกับชีวิตร่างกายหรือก่อเหตุ คดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญที่มีพฤติการณ์ในการก่อเหตุไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมอำพรางให้ยากต่อการสืบสวนเพียงใด ตำรวจภูธรภาค 1 จะทำการสืบสวนติดตามจับกุมการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างในการกระทำความผิดต่อไป และขอขอบคุณสื่อมวลชนโดยเฉพาะ คุณพุทธ อภิวรรณ และทีมงานช่อง 8 รวมถึงประชาชนทุกท่านที่เกี่ยวข้อง ที่มีความสนใจในคดีดังกล่าว ซึ่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ชุดจับกุม จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายในคดีนี้ และนำตัวคนร้ายไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า