นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าวจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 107.13 ล้านบาท
เมื่อเวลา 09:45 น.วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2567 ณ บริเวณห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร เลขที่ 1 ถนนสุนทรโกษา แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมคณะผู้บริหาร ร่วมแถลงข่าวจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า มูลค่ากว่า 107.13 ล้านบาท
โดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน เด็กและเยาวชนไทยหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งผู้ผลิตยังมีการดัดแปลงรูปลักษณ์ภายนอกของบุหรี่ไฟฟ้าให้มีความน่าสนใจ ดึงดูดใจให้บริโภค รวมถึงผสมยาเสพติดประเภทอื่นเข้าไปในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจนทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อสุขภาพ ท่านนายกฯ จึงให้เร่งดำเนินการปราบปราม จับกุมผู้ลักลอบนำเข้าและผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ส่วนควบอย่างจริงจัง โดยให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิด นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจเข้มกับสินค้าทุกประเภทที่อาจมีการซุกซ่อนบุหรี่ หรือบุหรี่ไฟฟ้าเข้ามาในราชอาณาจักรทั้งทางตู้สินค้าและพัสดุไปรษณีย์ รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสืบสวนหาข่าวการลักลอบการกระทำความผิดอีกด้วย
โดย เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ ได้รับการข่าวว่าจะมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจากประเทศจีน เจ้าหน้าที่จึงได้เอ็กซเรย์ตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุสินค้าต้องสงสัย ซึ่งมีการสำแดงชนิดสินค้าในใบขนสินค้าเป็นสินค้าเบ็ดเตล็ด จากภาพการเอ็กซเรย์พบว่ามีความผิดปกติของรูปร่างสินค้า จึงได้ทำการเปิดตรวจตู้สินค้า และผลการตรวจสอบพบเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า (หัวพอร์ต) จำนวนมากถึง 649,430 ชิ้น มูลค่ากว่า 96,897,500 บาท และในวันเดียวกันนั้น (วันที่ 24 พฤษภาคม 2567) กรมศุลกากร
สำนักงานศุลกากรกรุงเทพ ได้จับกุมบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมน้ำยา นำเข้าจากประเทศจีน ซึ่งไม่ได้มีการสำแดงไว้ในใบขนสินค้าฯ จำนวน 48,600 ชิ้น มูลค่า 5,832,000 บาท นอกจากนั้น กรมศุลกากรยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นร้านค้าที่อาจมีการจำหน่ายของผิดกฎหมาย โดยล่าสุด วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 กรมศุลกากร โดยกองสืบสวนและปราบปราม เข้าตรวจค้นร้านค้าแห่งหนึ่ง พื้นที่แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ค้นพบ บุหรี่ไฟฟ้าชนิดใช้แล้วทิ้ง บุหรี่ไฟฟ้าชนิดเติมน้ำยา และน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 558 ชิ้น มูลค่า 200,000 บาท สินค้าดังกล่าวข้างต้น เป็นของต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่ และบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2557 กรณีเป็นความผิดฐานสำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงข้อห้าม ตามมาตรา 202 มาตรา 244 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงยึดของกลางดังกล่าวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม 2567 (ตั้งแต่วันที่ 1 – 29 พฤษภาคม 2567) กรมศุลกากรจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 27 ราย ปริมาณ 726,499 ชิ้น มูลค่า 107,132,722 บาท และในปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 29 พฤษภาคม 2567 กรมศุลกากรจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 228 ราย ปริมาณ 1,026,971 ชิ้น มูลค่า 147,102,131 บาท และบุหรี่ จำนวน 1,268 ราย ปริมาณ 20,297,272 มวน มูลค่า 122,743,334 บาท รวมทั้งสิ้น 1,496 ราย ปริมาณ 21,324,243 ชิ้น มูลค่า 269,845,465 บาท เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน