สตม.แถลงผลปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ที่กระทำผิดกฏหมาย 3 คดี

สตม.แถลงผลปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ที่กระทำผิดกฏหมาย 3 คดี

สตม.แถลงผลปฏิบัติ จับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ ที่กระทำผิดกฏหมาย 3 คดี

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติ ที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.อภิมุข กานตยากร รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.แตนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง
รอง ผบก.ฯ ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม, พ.ต.อ.สรธรรศจ์ เอี่ยมละออ ผกก 1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ศรีอ่อน ผกก.2 บก.ส..สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ได้ร่วมแถลงผลการปฏิบัติงานในคดีสำคัญดังนี้

1. ผลการระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในห้วงระหว่างวันที่ 4-13 พ.ค.66 สตม. สามารถจับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) ได้ทั้งสิ้น 1,272 ราย เพิ่มชื้น 487 ราย คิดเป็น 62.03 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติการจับกุมคนต่างด้าวอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Iverstay ในห้วงการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เมื่อเดือน ต.ต.-พ.ย.65 ที่ผ่านมาซึ่งมีการจับกุมได้ 785 ราย

2. สตม. รวบหัวหน้าแก๊ง CALL CENTER จีน หลอกลงทุน CRYPTO ปลอม ความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
สืบเนื่องจากได้รับการประสานงานจากเอกอัศรราชทูตจีนประจำประเทศไทยและเจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมเมืองเซี้ยงไฮ้ กรณีผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีนรายสำคัญ 3 ราย โดยมี
1. MR.ZHOU หรือ นายโจว (นามสมมติ) อายุ 35 ปี สัญชาติจีน
2. MR.LI หรือ นายหลี่ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี สัญชาติจีน
3. MR.HUANG หรือ นายหวง (นามสมมติ) อายุ 37 ปี สัญชาติจีน ซึ่งก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีในลักษณะฉ้อโกงประชาชน ฯ เป็นขบวนการแก๊ง call center ชักชวนหลอกลงทุนบนแพลตฟอร์มแอพพลิเคชั่นปลอม มูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยตั้งฐานอยู่ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา แล้วหลบหนีเข้ามายังประเทศไทย
บก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม. พร้อมพวก ทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายทั้งสาม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ต่อมาเมื่อวันที่ 27 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า MR.ZHOU ได้หลบซ่อนอยู่ในคอนโดหรูแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 จึงได้ทำการขอหมายค้นต่อศาลอาญาเพื่อทำการเข้าทำการตรวจค้น เมื่อไปถึงห้องพัก พบ MR.ZHOU ที่เป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีน และถูกเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวได้ออกมาจากห้อง จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายค้นศาลอาญาเพื่อขอทำการตรวจค้น โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์จนเป็นที่พอใจแล้ว ซึ่ง MR.ZHOU สมัครใจพาตรวจคันห้อง ผลการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และบัตรเครดิต จำนวนหลายรายการ จึงได้นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม.
เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากนั้น สตม.ได้ประสานข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของสาธารณรัฐประชาชนจีน ขยายผลพบว่า นอกจาก MR.ZHOU จะเป็นหนึ่งในหัวหน้าของแก๊ง call center แล้วยังมีคนจีนอีก 2 คน เป็นระดับผู้บริหารของแก๊ง call center ดังกล่าว คือ MR.LI หรือนายหลี่ และ MR.HUANG หรือนายหวง โดยทั้งสองรายเป็นบุคคลที่มีหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีน และได้หลบหนีเข้ามาอยู่ที่ประเทศไทย ต่อมาเมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนทราบว่า MR.LI พักอยู่ที่
คอนโดแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพบ MR.L1 จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งกับ MR.LI ว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีนและถูกเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการจับกุมตัว และจากการสืบสวนยังพบว่า MR.HUANG ได้พักอาศัยอยู่คอนโดหรูแห่งหนึ่งผ่านวัฒนา กรุงเทพมหานคร จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญาธนบุรี เมื่อไปถึงห้องพัก พบ MR.HUANG ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีนและถูกเพิกถอนการอนุญาตอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราว จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เพื่อขอทำการตรวจค้น โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์จนเป็นที่พอใจแล้ว โดย MR.HUANG สมัครใจพาตรวจค้นห้อง ผลการตรวจค้นพบ โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ จึงได้นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม.เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยพฤติการณ์ของแก๊งดังกล่าวนั้น มีการจัดตั้งขบวนการแก๊ง call center อยู่ที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูซา ลักษณะเป็นการโฆษณาชักชวนให้ลงทุนบนแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า GOLD TANLI , EXCELLENT TRADING
HALL, SINA FINANCE, JINYU INTERNATIONAL ซึ่งเป็นการลงทุนเกี่ยวกับ CRYPTOCURRENCY โดยจะมีการชักชวนประชาชนจากเว็บไซต์และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เมื่อมีคนหลงเชื่อจะทำการพูดคุยผ่าน แอพพลิเคชั่นและชักชวนหลอกลงทุน อีกทั้งการจัดหาพนักงาน call center จะมีการหลอกลวงและบังคับคนเข้าทำงานกับแก๊ง call center ดังกล่าว

3. สตม. รวบหัวหน้าแก๊ง CALL CENTER จีน โทรหลอกประชาชน ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เชื่อมโยงเกินกว่า 8,500 คดี ความเสียหายเกินกว่า 8,000 ล้านบาท สืบเนื่องจากได้รับการประสานงานจากเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยและสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน กรณีผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีนรายสำคัญคือ MS. YANG หรือ นางหยาง อายุ 35 ปี สัญชาติจีน ซึ่งก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีในลักษณะฉ้อโกงประชาชน ๆ เป็นขบวนการแก๊ง call center โทรหลอกประชาชนอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ให้โอนเงินมูลค่าความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท โดยตั้งฐานอยู่ที่เขตปกครองพิเศษว้า ประเทศเมียนมาร์ แล้วหลบหนีเข้ามายังประเทศไทยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ บก.สส.สตม. จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยกู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม. พร้อมพวก ทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า MS.YANG ได้หลบซ่อนอยู่ในบ้านแห่งหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ทำการขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ และเข้าทำการตรวจค้น เมื่อไปถึงพบ MS. YANG ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีน จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงหมายค้นศาลจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอทำการตรวจค้น
โดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ จนเป็นที่ พอใจแล้ว โดย MS.YANG สมัครใจพาตรวจค้นห้อง ผลการตรวจค้นพบ โทรศัพท์มือถือ จำนวนหลายรายการ และจากการตรวจสอบข้อมูลการเดินทางพบว่า MS. YANG ไม่ได้เข้ามาในประเทศไทยผ่านทางช่องที่กฎหมายกำหนด จึงได้ทำการจับกุมในข้อหา เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุณาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พฤติการณ์ของแกัง call center ดังกล่าวนั้นมีการจัดตั้งขบวนการอยู่ที่เขตปกครองพิเศษว้า ประเทศเมียนมาร์ โดยจะโทรศัพท์หาผู้เสียหายแล้วจะอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือพนักงานอัยการ หรือตำรวจ จากนั้นจะพูดข่มขู่ผู้เสียหายว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาญาและฟอกเงิน และให้ผู้เสียหายโอนเงินแก๊ง call center ดังกล่าว โดยมีการกระทำผิดเชื่อมโยงกว่า 8,500 คดี ความเสียหายเกินกว่า 8,000 ล้านบาท
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในต้านต่าง ๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ต จังหวัฒนนทบุรี 11120 หรือที่
หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า