พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. และ โฆษก กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เผยถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จับกุมตัวผู้ต้องหาหลอกลวงขายสินค้าออนไลน์ให้กับผู้เสียหายกว่า 100 ราย ความเสียหายหลายเเสนบาท
เมื่อ 29 ม.ค.64 เวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ชุดจับกุมได้จับกุมตัว นายภักดี แซ่อั้ง อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหายจับศาลเเขวงนนทบุรี ในข้อหา ฉ้อโกง และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยจากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาดังกล่าวจะเข้าไปหาเหยื่อในกลุ่มซื้อขายสินค้าในแอปพลิเคชันไลน์ ในลักษณะ open chat จะหลอกขายสินค้าประเภทต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค เครื่องใช้ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ ผู้ต้องหาก็จะทำการบล็อคไลน์แล้วหลบหนีไป หากถูกอายัดบัญชีธนาคาร ผู้ต้องหาก็จะทำการเปิดบัญชีใหม่ไปเรื่อยๆ เพื่อนำไปหลอกผู้เสียหายรายอื่นๆ อีก กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์จับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้ความสำคัญ และตระหนักถึงภัยจากอาชญากรรมทางออนไลน์ จึงได้กำชับสั่งการให้ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ดำเนินการปราบปรามการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีในทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง รวมถึงวางมาตรการในการป้องกัน สร้างการรับรู้ให้กับประชาชน หรือผู้ใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ให้ถูกลอกหลวงจากผู้ที่ฉวยโอกาสในการกระทำความผิด
รอง โฆษก ตร. และ โฆษก บช.สอท. กล่าวอีกว่า การกระทำในลักษณะดังกล่าวไม่ใช่การกระทำความผิดในรูปเเบบใหม่ เป็นการกระทำความผิดในรูปเเบบเดิมๆ ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชนที่จะทำการซื้อสินค้าออนไลน์ต่างๆ ให้ระมัดระวังตรวจสอบให้ดีก่อนจะโอนเงิน มีความคิดไว้ก่อนว่าผู้ที่จะทำธุรกรรมด้วยนั้นจะโกงเราเเน่นอน อย่างเเรกให้นำชื่อเจ้าของบัญชีที่จะรับโอนเงินไปตรวจสอบในเว็บไซต์ google ตรวจสอบชื่อร้านค้าว่ามีประวัติไม่ดีหรือไม่ ขอดูภาพสินค้าหลายๆ มุม และต้องระมัดระวังการสั่งซื้อสินค้าที่มีราคาถูกเกินไป เพราะอาจถูกหลอกได้ ทั้งนี้ต้องเก็บหลักฐานการสั่งซื้อ ได้แก่ ข้อความประกาศขาย หน้าเว็บไซต์ รูป ชื่อที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ และเลขที่บัญชีของร้านค้า ข้อความการพูดคุยสั่งซื้อสินค้า เอกสารการชำระเงิน ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตามประชาชนท่านใดได้เคยถูก นายภักดี แซ่อั้ง ผู้ต้องหาในคดีนี้ฉ้อโกงหลอกขายของผ่าน ช่องทางออนไลน์ ขอให้รวบรวมพยานหลักฐาน มายัง บช.สอท. เพื่อดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
