นายสันธนะ ประยูรรัตน์ บุกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.คดี “ขบวนการไฮโซสาว-หนุ่ม ร่วมกันฉ้อโกง”
เมื่อเวลา 14:00 น.วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน 2563 ณ.บริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง ท่าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ในเรื่องของคดี ” ขบวนการไฮโซสาวหนุ่มร่วมกันฉ้อโกง ” ตามที่ปรากฎเป็นข่าวเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า ” ขบวนการไฮโซสาวหนุ่ม ” ร่วมกันฉ้อโกงนักธุรกิจชาวจีน แอบอ้างว่าสามารถติดต่อกับบุคคล มีชื่อเสียงทั้งนักการเมืองระดับรัฐมนตรี เชื้อพระวงศ์
เจ้าหน้าที่ราชการระดับสูง เพื่อดำเนินพิธีการศุลกากร นำสินค้าออกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยไม่เป็น
ความจริง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายต้องมาแจ้งความร้องทุข์ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวนี้ ทั้งนี้ไฮโชสาวผู้ถูก
กล่าวหา ได้ออกมาปฏิเสธพร้อมกล่าวว่าตนเอง”สวย รวย แซ่บ ” แล้วนั้น นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ได้ยืนยันว่า ไฮโซสาวหนุ่ม ร่วมกันก่อเหตุเป็นรูปแบบขบวนการพร้อมเครือข่าย ซึ่งนอกจากความผิดข้อหาข้างต้น กลุ่มไฮโซสาวหนุ่มยังได้กระทำความผิดอื่นๆอีก ดังนั้นในวันนี้ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ (ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหาย) จึงได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ระดับสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ พร้อมทั้งแจ้งข้อมูล พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นำไปประกอบ การพิจารณา และดำเนินการ ต่อไป
ดังนี้
1. กรณี ไอโซสาว กับเพื่อนชายคนสนิท มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี หน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น
2. คดี ไอโชสาว เป็นผู้ต้องหาคดี ความผิดต่อพ.ร.บ.ศุลกากร คดีที่ 32/2563 กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เหตุเกิดเมื่อต้นปี 2563
3. คดี ไฮโซสาวกับพวก เป็นผู้ต้องหาคดี มีธนบัตรปลอมไว้เพื่อใช้และนำธนบัตรปลอม มาแลกเงิน เหตุ
เกิดเมือวันที่ 6 ตุลาคม 2562 ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี
4.ไอโชสาว มีส่วนพัวพัน บ่อนการพนันรายใหญ่ ร่วมกับ เจ๊ งอ ( นามสมมติ ) ที่ถนนสาทร 11 ท้องที่สถานีตำรวจนคร
บาลยานนาวา ,ที่ตึกสำเพ็งสแควร์ ถนนราชวงศ์ ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลจักรวรรดิ และบ่อน
ไฮโซ ท้องที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
5. ไอโซสาว ร่วมกับบุคคลชื่อ ” หม่อม ฟอ ” ( นามสมมติ ) แอบอ้างชื่อหน่วยงาน” ตำรวจวัง “ข่มขู่ประชาชน
ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่าง กลุ่มไอโชสาวหนุ่มกับกลุ่มผู้มีอิทธิพล ที่อยู่เบื้องหลัง จาก
ข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2562 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ของเดือนสิงหาคม 2562 อีก
จำนวน 2 ฉบับ
