ท่าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย ท่าน พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.และเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ ตม.ลงแถลงผลการปฏิบัติการ 5 คดีรวด !!

ท่าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย ท่าน พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.และเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ ตม.ลงแถลงผลการปฏิบัติการ 5 คดีรวด !!

ท่าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย ท่าน พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.และเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ ตม.ลงแถลงผลการปฏิบัติการ 5 คดีรวด !!

เมื่อเวลา 10:30 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563 ณ.ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร สตม.(สวนพลู) ท่าน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย ท่าน พล.ต.ต.ชูฉัตร ธารีฉัตร รอง ผบช.สตม.และเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการ ร่วมลงแถลงผลการปฏิบัติการ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา โดยมีถึง 5 คดี ดังนี้

☆1.ตม.สงขลา จับกุม 3 คนไทยแก๊ง Romance Scam รับจ้างต่างชาติเปิดบัญชี หลอกลวงคนไทย
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม. 6 และ พ.ต.อ.มานะ นาคทั่ง รอง ผบก.ตม.6 รรท.ผกก.ตม.จว.สงขลา สั่งการให้ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา บูรณาการกับ ชุดเทคนิคและสืบสวน ศปอส.ตร. ลงพื้นที่หลังจากได้รับเบาะแสว่ามีขบวนการปลอมเป็นคนต่างชาติหน้าตาดี มาคุยตีสนิทกับหญิงไทยแล้วหลอกว่าจะส่งเงินจำนวนมากเพื่อมาใช้ชีวิตบั้นปลายในประเทศไทย ต่อมาจะมีกลุ่มคนไทยปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองโทรมาแจ้งว่ามีพัสดุดังกล่าวเข้ามาติดอยู่ที่สนามบินจริงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินค่าภาษีและค่าดำเนินการต่างๆสูญเงินไปกว่า 4 ล้านบาท หลังจากนั้นกลุ่มคนร้ายว่าจ้างคนไทย (ม้ากดเงิน) นำบัตรเอ ที เอ็มของผู้รับจ้างเปิดบัญชี ตระเวนถอนเงินในพื้นที่ อ.สะเดา จว.สงขลา เจ้าหน้าที่จึงวางแผนจับกุม นายอับดุลเลาะห์, นายอิบบาเฮง และนางอนุสรา พร้อมของกลางบัตรเอ ที เอ็ม ของผู้อื่นจำนวน 17 ใบ ขณะกำลังถอนเงินที่ได้จากการหลอกลวงผู้เสียหายจำนวน 120,000 บาท ที่ตู้ เอ ที เอ็ม แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.สำนักขาม อ.สะเดา จว.สงขลา โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันมีไว้เพื่อใช้และใช้บัตร
อิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นที่ใช้กดเงินสด ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน จากการสอบถามทั้งหมดรับสารภาพว่าทำหน้าที่ถอนเงินตามคำสั่งของหญิงไทยซึ่งมีสามีเป็นชาวต่างชาติเพื่อส่งกลับไปให้ผู้ร่วมขบวนการที่ตั้งฐานอยู่ที่ต่างประเทศ ได้ค่าดำเนินการครั้งละ 200 บาท เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

☆2. ตม.ปัตตานี จับขบวนการนำพาเมียนมาไปประเทศที่สาม โดยใช้ Passport ปลอม 34 ราย
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. , พล.ต.ท.สมพงศ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พีรวัส บุญลอย ผบก.ตม. 6 และ พ.ต.ต.ชิติสรรค์ คงขำ สว.ตม.จว.ปัตตานี สั่งการให้ชุดสืบสวน ตม.จว.ปัตตานี บูรณาการกับ กก.สส.2 บก.สส.จชต.,จนท.กก.6 บก.ปคม. ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังจากได้รับข่าวจากแหล่งข่าว(ขอปกปิดนาม) ว่าจะมีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา น่าจะใช้หนังสือเดินทางปลอม และใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นเดินทางมากับรถโดยสารประจำทาง กรุงเทพฯ-สุไหง-โกลก จากการตรวจสอบ พบบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 34 คน ที่บริเวณลานจอดรถสถานีขนส่งจังหวัดปัตตานีขณะเดินทางมากับรถบัสโดยสาร กรุงเทพ – สุไหง-โกลก ป้ายทะเบียน 15-xxxx กทม (จำนวน 33 ราย) และ ป้ายทะเบียน 15-xxxx กทม (จำนวน 1 ราย) ซึ่งตรงกับที่แหล่งข่าว แจ้ง จึงเข้าทำการตรวจสอบบุคคลและขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองไบโอเมทริกซ์ (Biometrics) พบการกระทำความผิดดังนี้
1 มีและใช้รอยตราประทับปลอม , ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่นโดยมิชอบฯ , หลบหนีเข้าเมือง 11 ราย
2 ปลอมและใช้หนังสือเดินทางปลอม , หลบหนีเข้าเมือง 5 ราย
3 ใช้หนังสือเดินทางของผู้อื่น , หลบหนีเข้าเมือง จำนวน 18 ราย
นำส่ง พงส.สภ.เมืองปัตตานี และประสานทีมสหวิชาชีพ ทำการคัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ ผลการตรวจสอบ บุคคลต่างด้าวทั้ง 34 ราย ไม่เข้าข่ายตกเป็นผู้เสียหายจากของการค้ามนุษย์ ตาม พรบ.ปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ผู้ถูกจับทั้ง 34 รายให้การในชั้นจับกุมว่า พวกตนเข้ามาประเทศไทยโดยลักลอบผ่านช่องทางธรรมชาติ บริเวณ อ.แม่สอด จว.ตาก เพื่อไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย ต่อมาได้เดินทางไปยังกรุงเทพฯ และได้โดยสารรถบัสประจำทาง กรุงเพทฯ สุไหงโก – ลก เพื่อไป อ.สุไหงโก-ลก จว.นราธิวาส ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จว.ปัตตานีจับกุมได้ที่ บขส.ปัตตานี

☆3. สืบสวน ตม.6 รวบ 2 สาวลาว แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เปิดรับงานไซด์ไลน์ค้าประเวณี
ซึ่งคดีนี้ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.6 ได้สืบค้น รวบรวมข้อมูลการแจ้งที่พักของคนต่างด้าว ตาม ม.38 (พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ) จากระบบ BIOMETRICS พบข้อมูลการแจ้งที่พักของกลุ่มนักท่องเที่ยวหญิงสัญชาติลาวจำนวนหลายรายพักอาศัยอยู่รวมกันในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา จึงได้ลงพื้นที่ออกสืบสวนหาข่าวพบว่าในช่วงเวลาประมาณ 22.00-03.00 น.มักจะมีกลุ่มหญิงลักษณะคล้ายคนลาว รวมกลุ่มกันอยู่หน้าบริเวณอาคารพาณิชย์ที่ดัดแปลงเป็นห้องเช่า บน ถ.นิพัทธ์อุทิศ 2 อ.หาดใหญ่ ชุดสืบสวนจึงได้แฝงตัวเข้าไปตรวจสอบ พูดคุย โดยกลุ่มหญิงดังกล่าวได้พูดชักชวนว่า “เที่ยวไหมคะ 500 บาท พร้อมห้อง” ซึ่งจากสำเนียงการพูดของกลุ่มหญิงดังกล่าวเชื่อว่าไม่ใช่คนไทย เจ้าหน้าที่ฯจึงได้ทำการล่อซื้อหญิงในกลุ่มดังกล่าวจำนวน 2 ราย จากนั้นได้ติดตามขึ้นไปยังห้องพักในบริเวณดังกล่าว และเมื่อเจ้าหน้าที่แฝงตัวได้เห็นพฤติการณ์เป็นที่แน่ชัดแล้ว จึงส่งสัญญาณให้ชุดสนับสนุนเข้าแสดงตัวเพื่อทำการตรวจสอบ โดยจากการตรวจสอบพบ น.ส.พองสะหมุด สัญชาติลาว อายุ ๒๔ ปี และ น.ส.ใหม่ สัญชาติลาว อายุ 28 ปี เข้ามาในราชอาณาจักรไทยเพื่อการท่องเที่ยว (ได้รับยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA) ประเภท ผผ.30) ซึ่งจากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี และ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมหญิงลาวทั้ง 2 ในข้อหา “เตร็ดเตร่ค้าประเวณี และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” นำส่ง สภ.หาดใหญ่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

☆4.“ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก จับกุมคนจีน 46 คน ”
ข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก ออกตรวจสืบสวนปราบปรามในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ขณะเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ พบเห็นกลุ่มชาวต่างชาติ (คนจีน) จับกลุ่มเดินอยู่บนถนนที่บริเวณถนนซอยทางเข้าตลาดวัว หมู่ 10 ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จว.ตาก เป็นจำนวนมาก จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอตรวจเอกสารหนังสือเดินทาง หรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง จากการตรวจสอบแล้วกลุ่มผู้ถูกจับไม่มีเอกสารหนังสือเดินทางมาแสดงกับเจ้าพนักงานแต่อย่างใด สุ่มทำการสอบถามกลุ่มผู้ถูกจับ รับว่าพักอาศัยและทำงานอยู่ที่ประเทศเมียนมา ได้เดินทางข้ามมายังฝั่งไทยทางช่องทางธรรมชาติ(ข้ามเรือ) บริเวณท่าเรือจุดไหนไม่ทราบ เพื่อเข้ามาเที่ยวพักผ่อน และซื้อของกินของใช้ใน อ.แม่สอด จว.ตาก แต่ถูกเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจพบ
จึงทำการจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามา และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ถูกจับผ่านล่ามภาษาจีน ทราบแล้วข้างต้น จากนั้นจึงนำตัวกลุ่มผู้ถูกจับทั้งหมดจำนวน 46 คน ส่ง พงส.สภ.แม่สอด จว.ตาก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

☆5.ด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน จับกุมนายจ้างให้ที่พักพิง และรับบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อวันที่ 4 ก.พ.63 เวลาประมาณ 20.30 น. พ.ต.อ.สุวิทย์ ล้วนประเสริฐ ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ศักรินทร์ ไม้น้อย รอง ผกก.ด่าน ตม.เชียงแสน และ พ. ต.ท.สำรวย สมาน สว.ด่าน ตม.เชียงแสน ได้ประชุมชุดสืบสวนฯ และ จนท.ตร.สภ.บ้านแซว เพื่อวางแผนปฏิบัติการก่อนเข้าทำการตรวจสอบ ร้านวันเพ็ญ เลขที่ 140 หมู่ 6 ต.แม่เงิน อ.เชียงแสน จว.เชียงราย ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า ร้านดังกล่าวเป็นสถานบริการที่สุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิดอันอาจเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์
ต่อมา เวลาประมาณ 21.00 น.จึงได้นำกำลังเข้าทำการตรวจสอบภายในร้านดังกล่าว โดยมี นายศิริพงษ์ เจ้าของร้าน นำตรวจสอบ ซึ่งร้านดังกล่าว เป็นร้านคาราโอเกะ มีการจำหน่ายเครื่องดื่มไว้ให้บริการ แก่ลูกค้า และพบว่ามีหญิงสาวสัญชาติลาว จำนวน 2 คน ทำงานให้บริการลูกค้าอยู่ภายในร้าน ภายหลังทราบชื่อว่า นางไพสุก อายุ 17 ปี 9 เดือน และ นางตุ๊กตา อายุ 20 ปี จนท.จึงขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและใบอนุญาตให้ทำงาน แต่ทั้งสองรายไม่สามารถนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ และได้นำข้อมูลชื่อ นามสกุล และสัญชาติ มาตรวจสอบจากระบบ ฯ ในรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะไม่พบข้อมูลการเดินทางของบุคคลทั้งสองรายแต่อย่างใด หญิงสาวทั้ง 2 คน ให้การยอมรับว่าได้หลบหนีเข้ามาและทำงานในร้านดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ทำการบันทึกจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแซว อ.เชียงแสน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
จากนั้นได้สอบถามนายศิริพงษ์ ซึ่งยอมรับว่าได้รับหญิงสาวชาวลาวทั้ง 2 คน มาทำงานอยู่ภายในร้านโดยที่ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ทำงานจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “รับคนต่างด้าวเข้าทำงาน โดยไม่ได้รับอนุญาต และให้ที่พักพิง ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้แก่คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” ทำการบันทึกจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านแซว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า