สืบนครบาล รวบ 2 หนุ่มชัยนาท พร้อม ยาบ้า 200,000 เม็ด คาด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษศรีนครินทร์
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย คือ
1. นายนัทธพงศ์ อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ตำบลเด่นใหญ่ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ผู้ต้องหาที่ 1 (ขับรถยนต์)
2. นายโอธารัตย์ อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา ตำบลบ้านเชียน อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ผู้ต้องหาที่ 2 (นั่งมาด้านข้างคนขับ)
พร้อมด้วยของกลาง โดยมี
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด (สองแสนเม็ด) พบในฝากระโปรงท้ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล โตโยต้า แคมรี่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กฉ-7940 ชัยนาท
2.รถยนต์นั่งส่วนบุคคล โตโยต้า แคมรี่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กฉ-7940 ชัยนาท (พร้อมกุญแจ)
3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน ยาบ้า ) อันเป็นการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” จับกุมได้ที่ บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ในการจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. จากการสืบสวนทราบว่าเวลาประมาณช่วง 02.00 น. ถึง 05.00 น.จะมีการลักลอบรับส่งยาเสพติดบริเวณถนนศรีนครินทร์ ซอย 7 และ ซอย 9 จึงได้วางกำลังเฝ้าติดตามกลุ่มเป้าหมาย จนกระทั่งเวลาประมาณ 03.45 น. เจ้าหน้าที่พบรถยนต์โตโยต้า แคมรี่ ซึ่งเป็นรถยนต์เป้าหมายขับเข้ามายังซอยศรีนครินทร์ ซอย 7. โดยขับเข้าไปใช้เวลาไม่นานก็ขับออกมา ต่อมาขับเข้าไปยังซอยศรีนครินทร์ซอย 9. เข้าไปประมาณ 5 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่ามีการรับส่งยาเสพติดอยู่ในซอย 9 แล้วเจ้าหน้าที่จึงได้วางกำลังเฝ้าบริเวณปากซอย ต่อมาก็พบรถยนต์เป้าหมายขับออกมาจึงได้ทำการสะกดรอยติดตามจนกระทั่งรถยนต์คันดังกล่าวขับมาถึงบริเวณหน้าด่านเก็บเงินค่าผ่านทางพิเศษศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ นายนัทธพงศ์ เป็นคนขับ และนายโอธารัตน์ เป็นคนนั่งข้าง จากการตรวจค้นโดยละเอียดพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 1 กระสอบ จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด วางอยู่ที่กระโปรงท้ายรถยนต์โตโยต้า รุ่นแคมรี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จึงแจ้งว่าต้องถูกจับแจ้งข้อกล่าวหาแจ้งสิทธิ ให้ทราบ นำตัวพร้อมของกลาง มาทำบันทึกการจับและดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานฯ เรียบร้อยจากนั้นนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เบื้องต้นตรวจสอบประวัติ พบว่า
1.นายโอธารัตย์ เคยถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อนหน้านี้ จำนวน 2 ครั้ง -ครั้งที่ 1 ประมาณปี พ.ศ. 2552 สภ.หันคา จับกุมในข้อหาจำหน่ายยาบ้าจำคุก 1 ปี 8 เดือน ที่เรือนจำจังหวัดชัยนาท
-ครั้งที่ 2 ประมาณปี พ.ศ. 2557 สภ.หันคา จับกุมในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมของกลางยาบ้า จำคุก 4 ปี 6 เดือน ที่เรือนจำจังหวัดชัยนาท และพ้นโทษเมื่อประมาณกลางปี พ.ศ.2561 จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากนโยบายรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตระหนักถึงปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นภัยคุกคามและเป็นหนึ่งในปัญหาของชาติที่สำคัญ ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนและจริงจัง จึงมอบนโยบายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.,พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. แก้ไขปัญหายาเสพติดที่จะแพร่กระจายในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยทางสืบนครบาลได้ขานรับนโยบาย จึงได้นำมาสู่ในการจับกุมในครั้งนี้
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน
คุณ กัณฑ์อเนก ฐิติพัฒน์
บรรณาธิการ Cop Hero Thailand Magazine รายงาน