บิ๊กอู๊ด ผบช.น.แถลงผลปฏิบัติการ 4 คดีสำคัญ จับกุมปาร์ตี้ยา, จำหน่ายยาเสพติดผ่านระบบขนส่งพัสดุในพื้นที่ สน.ทองหล่อ, จับกุมยาเสพติดรายสำคัญ ผลงาน บก.สส. และแก๊งลักรถจักรยานยนต์ในเขตพื้นที่ บก.น.8
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เร่งรัดขับเคลื่อน การปราบปราม อย่างจริงจัง โดยบูรณาการกำลังทุกฝ่ายพร้อมกับ
หน่วยงานในทุกกองบัญชาการ โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย, พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร, พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน, พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย ,
พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ, พล.ต.ต.สำราญ นวลมา รอง ผบช.น. เร่งรัดสืบสวนปราบปรามจับกุมอย่างต่อเนื่อง
คดีที่ 1 พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.
ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามจับกุมผลการปฏิบัติดังนี้วันที่ 3 ก.พ.64 เวลาประมาณ
01.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายเอกอนันต์ฯ พร้อมพวกรวม 10 คน บริเวณบ้านเช่าเลขที่ 91 กลางซอยสุขุมวิท 49/19 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ลักษณะผงสีขาวอยู่ในจานแก้ว ชั่งน้ำหนักรวมถุงได้ 0.7 กรัม โดยกล่าวหาว่า“ร่วมกัน
มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท (คีตามีน) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมายและร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมในลักษณะมั่วสุมกันหรือมี
โอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย ชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิด
ความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9 ข้อ 3 (2) ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19), กระทำการหรือดำเนินการใด ๆ ซึ่งอาจก่อสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคแพร่ ระบาดออกไป ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้า
พนักงานควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34 (6) ” เนื่องจากมีการสืบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการปล่อยให้เช่าเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดงานสังสรรค์กัน โดยมีการประกาศทางโซเชี่ยลจึงได้เฝ้าติดตามเนื่องจาก
เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จากการสอบถามทราบว่า ได้มีการสังสรรค์และเสพยาอี จึงได้ตรวจหาสารเสพติด ผลการตรวจพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในร่างกายจำนวนทั้งหมด 7 คน ส่วนอีก 3 คน ไม่พบ
สารเสพติดในปัสสาวะ เนื่องจากมาสังสรรค์ดื่มกินแต่ไม่ได้เสพยา จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี
ต่อไป
คดีที่ 2 พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.
ทองหล่อ และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเร่งรัดติดตามจับกุมผลการปฏิบัติดังนี้วันที่ 3 ก.พ.64 ได้จับกุม นายอรรถพรฯ บริเวณบริษัทขนส่งพัสดุ SCG Express สาขาเอกมัย ถนนเอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 1,453 เม็ด และยาไอซ์ รวมน้ำหนัก 68 กรัม โดยกล่าวหาว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตาม (ยาบ้าและยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมนายวรพลฯ โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1
(ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย เมื่อ
วันที่ 18 ม.ค.64 ที่ผ่านมา ทำให้สืบสวนจนทราบว่า ยาเสพติดของกลางนั้น ต้นทางส่งมาจาก บริษัท SCG EXPRESS ตั้งอยู่ถนนเอกมัย จนกระทั่งวันที่ 3 ก.พ.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจพบชายมีลักษณะคล้ายนาย อรรถพร
ฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดที่ หน้าบริษัท SCG
EXPRESS เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวเพื่อตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบซองพัสดุจากการสอบถาม นาย
อรรถพร ฯ รับว่าภายในซองพัสดุนั้น คือ ยาบ้าและยาไอซ์ ที่กำลังจะส่งให้กับลูกค้า จากนั้นนำตัวนายอรรถพร
ฯ พร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับกุมที่ สน.ทองหล่อ ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
คดีที่ 3 พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤศณัฏฐ์ ธนศุภณัฏฐ์ ผกก.สส.บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวน 2 ทำการสืบสวนคดียาเสพติดรายสำคัญ ให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม สืบเนื่องจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพ
ติดรายใหญ่ จำนวนหลายคดีในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ทราบว่ามีกลุ่มบางนา มีพฤติการณ์
ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนภาคอีสาน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.พ.64 เวลาประมาณ 00.10 น. ได้จับกุม
นางสาวพิมลรัตน์ฯ พร้อมพวกรวม 5 คน ภายในบ้านเลขที่ 21/159 ม.ถาวรนิเวศน์ 1 ซ.บางนา-ตราด 14
แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ พร้อมด้วยของกลาง
1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เฮโรอีน ) จำนวนประมาณ 1,200 แท่ง (น้ำหนักรวมประมาณ 420 กิโลกรัม)
2.รถยนต์ โตโยต้า วีโก้ สีทอง
3.โทรศัพท์เคลื่อนที่ 8 เครื่อง
4.รถยนต์ อีซูซุ ดีแม๊ค สีขาว
5.สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม
6.บัตร ATM จำนวน 5 ใบ
โดยกล่าวหาว่า “ ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เฮโรอีน ) ไว้ในความครอบครองเพื่อ
จำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ” จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 4 พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.น.8 ได้สั่งการให้ กก.สส.บก.น.8 สน.บุปผาราม, สน.สมเด็จเจ้าพระยา,
สน.บางมด และ สน.บางยี่เรือ บูรณาการกำลังออกสืบสวนจับกุม แก๊งลักรถจักรยานยนต์ ที่มีเหตุรถจักรยานยนต์ประชาชนถูกลักเอาไปในพื้นที่ ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก
พฤติกรรมคนร้ายจะขับรถจักรยานยนต์ ตระเวนไปในเขตชุมชน, ที่พักอาศัย, ตลาด และ
สถานที่ต่างๆ เมื่อสบโอกาส จะเข้าไปใช้เหล็กรูปตัวทีแทงเบ้ากุญแจ ติดเครื่องยนต์ ลักเอารถจักรยานยนต์ไป จึงสืบสวนโดยใช้กล้องวงจรปิดที่ได้รับจากโครงการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจ
แห่งชาติ ได้ให้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ติดตั้งเพิ่ม ในเขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งทำให้ทราบเส้นทางที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีสืบสวนจนทราบว่า มีนายพุฒิพงศ์ หรือไอซ์ เป็นหนึ่งในแก๊งลักรถจักรยานยนต์ ดังกล่าว
โดยมักจะตระเวนลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่อยู่เป็นประจำ จึงเฝ้าสังเกตการณ์ติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา
จนพบ นายพุฒิพงศ์ฯ ที่บริเวณหน้าบิ๊กซี ถนนอิสรภาพ แขวงวัดกัลยา เขตธนบุรี กรุงเทพฯ กำลังดูรถจักรยานยนต์ที่จะลงมือลักเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม พบของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 0.89
กรัม และเครื่องมือลักรถจักรยานยนต์ ประกอบด้วยแท่งเหล็กปลายแหลม (ใช้สำหรับแทงเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์) จำนวน 3 อัน เหล็กรูปตัวที จำนวน 1 อัน (ใช้ต่อกับเหล็กปลายแหลมเพื่อแทงเบ้ากุญแจ)
แท่งเหล็กฝังแม่เหล็กสำหรับใช้เปิดเบ้ากุญแจ จำนวน 1 อัน ซึ่งนายพุฒิพงศ์ฯ รับสารภาพว่ากำลังจะลักรถจักรยานยนต์ ที่จอดอยู่บริเวณหน้าห้างดังกล่าวจริง
จากข้อมูลที่สืบสวนมาและขยายผลแก๊งลักรถจักรยานยนต์ของนายพุฒิพงศ์ฯ ได้ก่อเหตุใน
พื้นที่ สน.บุปผาราม จำนวน 3 คดี สน.บางยี่เรือ จำนวน 1 คดี สน.สมเด็จเจ้าพระยา จำนวน 1 คดี สน.
บางมด จำนวน 1 คดี สน.พระราชวัง จำนวน 1 คดี สน.พลับพลาไชย 1 จำนวน 1 คดี สน.บางขุนเทียน จำนวน 6 คดี และ สน.บางเขน จำนวน 2 คดี รวมทั้งสิ้น 16 คดีมีหมายจับ ของ สภ.กระทุ่มแบน และ
สน.บุปผาราม เคยถูกดำเนินคดีฐานลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ และ สน.บางบอน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบูรณาการข้อมูลและประสานการปฏิบัติร่วมกันดำเนินคดีผู้ต้องหา อีกทั้งยังสืบสวน ขยายผลไปถึงขบวนการรับรถ จักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาเพื่อส่งขายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะมีการปลอมแปลงเอกสารตัวรถ และขนส่งนำข้ามชายแดน ลักษณะเป็นขบวนการใหญ่
บช.น. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรสัโควิด
– 1 9 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมายในโซเชียลมีเดีย โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่