ตำรวจสอบสวนกลาง โดย บก.ทล.5 กก.1 บก.ทล. (เพชรบูรณ์) จับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองฯ
เมื่อเวลา 16:20 น.วันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2567 ณ ถนน ทล.117 กม.89-90 ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร พ.ต.ท.วรบดินทร์ เลิศศุภสินสถิต สว.ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.อลงชัย อ่อนจันทร์, ร.ต.ต.ศุกร์ หงษ์ทอง ร.ต.ต.ประภาส อาจหาญ, ร.ต.ต.สยาม ผ่องแผ้ว รอง สว(ป.) ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล, ด.ต.นิคม พุฒอ่อน, ส.ต.อ.โชต จันทร์บัว, ส.ต.อ.กมลพล พุ่มกล่อม ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.1 บก.ทล.ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป. ปรท. รอง ผบก.ทล, พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง ผกก.1 บก.ทล.ให้กวดขันจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ต่างๆ และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ บนทางหลวงและการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งตามวันเวลาดังกล่าว เจ้าพนักงานตรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งสายสายลับ (ขอปิดนามและขอรับเงินรางวัลในการแจ้งจับในครั้งนี้) ได้แจ้งว่าจะมีขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยได้มาจากอำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก มุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้เส้นทาง ทางหลวงหมายเลข 117 ผ่านเขตจังหวัดพิจิตร เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ออกตรวจสอบเส้นทางดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขณะเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมปฏิบัติหน้าที่มาถึงบริเวณทางหลวงหมายเลข 117 กิโลเมตรที่ 89-90 ตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ได้พบรถยนต์ต้องสงสัยเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 5461 กำแพงเพชร ซึ่งเป็นรถคันเดียวกันกับที่ได้รับแจ้งจากสายลับ ขับผ่านมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจชุดจับกุมเห็นดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและได้ให้สัญญาณไฟวับวาบกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงไซเรนส์ รวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกให้รถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด เมื่อรถคันดังกล่าวหยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจเพื่อขอทำการตรวจสอบทราบชื่อผู้ขับขี่คือนายทศพล (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อยู่ที่หมู่ 6 ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก (ผู้ถูกจับที่ 1) โดยมีผู้ถูกจับที่ 2-12 นั่งโดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำผู้ถูกจับ 1-12 และรถยนต์ คันดังกล่าวมาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ หน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงพิจิตร ตำบลบ้านนา อำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร พบว่าผู้ถูกจับที่ 2 – 12 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาร์ ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้สอบถามผู้ถูกจับที่ 1 ให้การว่าได้ไปรับแรงงานต่างด้าว (ผู้ถูกจับที่ 2 – 12) ที่บริเวณริมถนนข้างทาง อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก โดยได้รับค่าจ้างเที่ยวละ 15,000 บาท ผู้ถูกจับที่ 1 ยังรับต่อว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริงและตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดและยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง (จังหวัดพระนครศรีอยุธยา) จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจสอบโดยตนนั้นได้กระทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง และได้สอบถาม ผู้ถูกจับที่ 2–12 ผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาร์ ให้การยอมรับว่า ตนเองพร้อมพวกจำนวน 11 คน ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพาเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่ายต่อคน จำนวน 15,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ถูกจับที่ 1 “ รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม ผู้ถูกจับที่ 2 – 12 “ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ” และได้ควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวชิรบารมี ภ.จว.พิจิตร พร้อมกันนี้เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งให้เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอวชิรบารมี จังหวัดพิจิตร และศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายประจำสำนักงานอัยการจังหวัดพิจิตรทราบฯ ถึงการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565
ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ มีดังนี้
1 ) นายทศพล (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 6 ตำบลเชียงทอง อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก สัญชาติ ไทย
2 ) Miss.NOY ZU (นางสาวหน่วยซู) อายุ 28 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
3 ) Miss.AINOY (นางสาวอี้หนุ่ย) อายุ 21 ปีสัญชาติ เมียนมาร์
4 ) Mr.RADDEAW (นายล๊าดเดียว) อายุ 19 ปีสัญชาติ เมียนมาร์
5 ) Mr.ARTEE (นายตีอาซู) อายุ 26 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
6 ) MrAOWMEPOO (นายเอาเมพู ) อายุ 24 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
7 ) Mr.AUMPOVEE (นายอัมโพวี) อายุ 29 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
8 ) Mr.MOO SA OO (นายมูซาอู) อายุ 29 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
9 ) Mr.SEE TOO OO (นายซีทูออ) อายุ 27 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
10 ) Mr.SAA NA TOO (นายสะเนโท) อายุ 22 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
11 ) Mr.AOW MEE JOO (นายเอามีจอ) อายุ 22 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
12 ) Mr.SEM Uu DOO (นายเซมยูดอ) อายุ 28 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
[ ของกลางในคดี ]
1 ) รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อมิซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 5461 กำแพงเพชร
2 ) โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO สีฟ้า หมายเลขเบอร์โทร 093-239-7098 จำนวน 1 เครื่อง
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน
( ผู้ถูกจับที่ 1 ) รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม
( ผู้ถูกจับที่ 2 – 12 ) เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยผู้ต้องหาทั้ง 12 ราย ได้ถูกส่งตัวเพื่อดำเนินคดีในขั้นต่อไป
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน
คุณ ศุภผล จริงจิตร
ผอ.ภ.6 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน รายงาน