ตม.ซักสาวจีนไลฟ์สดนานา พบแฝงขายของออนไลน์ ส่งดำเนินคดี พรบ.ทำงานฯ
ตามที่ปรากฎในสื่อสังคมออนไลน์ในวันที่ 5 ธ.ค.2566 พบมีคลิปหญิงชาวจีน แต่งกายวาปหวิวเดินในซอยนานาและพูดในเชิงทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย เหตุเกิดพื้นที่ สน.ลุมพินี นั้น เมื่อวันนี้ 8 ธ.ค.2566 พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม.เร่งตรวจสอบ ในกรณีหญิงชาวจีน แต่งกายวาปหวิวเดินในซอยนานา และมีการพูดในเชิงทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้น ผลการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวคือ คือ น.ส.หวาง จือ ยู สัญชาติจีน เข้าประเทศไทยด้วยวีซ่าประเภท Thai Privilege Card จึงได้เชิญตัวมาซักถามปากคำ โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเป็นคนทำคลิปจริง แต่ไม่ได้มีเจตนา ให้เกิดความเสียหายต่อประเทศไทย โดยเพียงแต่ต้องการประชาสัมพันธ์ให้คนต่างชาติรู้ว่าสถานที่ไหนผู้หญิงไปคนเดียวควรจะระวังตัว
จากการตรวจสอบพฤติกรรมของ น.ส.หวาง พบว่ามีการไลฟ์สดขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งเข้าข่ายการทำงานของคนต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวฯ โดยพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ น.ส.หวาง ทราบว่าเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนเจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม.จะได้สืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ทาง สตม.ฝากเตือนมายังชาวต่างชาติที่เข้ามาสร้าง content ในประเทศไทย โดยพยายามให้เกิดประเด็นเชิงลบซึ่งไม่เป็นความจริง และเกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์และบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมีเจตนาแฝงเพื่อสร้างกระแสเรียกยอดไลค์ในโซเชียล อาจเป็นเหตุให้ถูกดำเนินคดีตามความผิดที่เกี่ยวข้อง และขึ้นบัญชีคนต้องห้ามได้
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน