คณะแพทยศาสตร์ มช. แถลงข่าวสื่อมวลชนประจำปี 2564 พร้อมมอบรางวัลสวัสดีปีใหม่ให้สื่อฯ
เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.64 มีการแถลงข่าวประจำปี 2564 ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีร่วมกับ ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต ผอ.รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผศ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผอ.ศูนย์ศรีพัฒน์ รศ.พญ.อรินทยา พรหมินธิกุล ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ และ ผศ.พญ.พุดตาน วงศ์ตรีรัตนชัย รองคณบดีฯดูแลงานสื่อสารองค์กรและการประชาสัมพันธ์ โดยคณบดีกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนและเผยถึงโครงการความคืบหน้า Save Sujinno ซึ่งสรุปได้ว่ามีการบูรณะแล้ว 3 ชั้น จะเร่งบูรณะตึกสุจิณโณในปี 2565 ให้สำเร็จโดยใช้งบประมาณราว 550 ล้านบาท ขณะนี้ยังมีการรณรงค์รับบริจาคอยู่ และวันที่ 15 ม.ค.65 จะมีการแถลงข่าวมีผู้มอบวัตถุมงคลเหรียญ/รูปเหมือนหลวงปู่แหวน สุจิณโณเพื่อสมนาคุณแก่ผู้บริจาคทรัพย์ด้วย
รอบปี 2564 มีการปรับปรุงลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระราชบิดาฯ, การเปิดศูนย์บูรณาการเทคโนโลยีการแพทย์ทันสมัย และศูนย์ธาลัสซีเมีย และโลหิตวิทยา, การเปิดอาคารพักญาติผู้ป่วย รพ.สวนดอก, งานวิจัยวัคซีนโควิด-19 และการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 ของคณะแพทยศาสตร์อย่างเข้มข้น โดยให้การรักษาผู้ป่วยหนักอย่างต่อเนื่อง และการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรการแพทย์-พยาบาลด่านหน้า คณาจารย์ บุคลากร นักศึกษาและประชาชนกว่า 1.5 แสนคน ส่วนโครงการที่จะดำเนินการในปี 2565 ต้นปีจะร่วมรับเสด็จฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาทรงเปิดศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ “มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่” นอกจากนั้นจะมีการระดมทุนในวาระครบรอบ 135 ปีชาตกาลหลวงปู่แหวน สุจิณโณ การเปิดศูนย์การแพทย์หริภุญชัย และการปรับปรุงห้องฉุกเฉิน Modern Digital Emergency Departments เป็นต้น
ผศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต แถลงถึงการตอบสนองการระบาดของโควิด-19 ตลอดปี 64 ของ รพ.มหาราช และการให้บริการฉีดวัคซีนว่าดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ โดย รพ.รับผู้ป่วยหนักเข้ารักษาและมี รพ.เครือข่ายคือ รพ.ประสาท กับมีการเปิดคล้าย รพ.สนามขึ้นในองค์กรที่มีคนติดเชื้อจำนวนมาก เช่นบ้านธรรมปกรณ์ทำให้รักษาหายได้ทั้งหมด, เรื่องการบริการอย่างมี่คุณภาพ ทำให้ รพ.มหาราชฯได้รับรางวัลระดับชาติหลายรางวัล, การนำเทคโนโลยีการจัดยาด้วยระบบอัตโนมัติมาช่วยเพื่อความรวดเร็ว, การมุ่งสู่ความเป็น รพ. Digital Hospital และการเตรียมความพร้อม 7 วันอันตรายช่วงเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ 2565 ให้ปลอดภัยในช่วงโควิด โดย รพ.มหาราชฯหรือสวนดอก เตรียมอาจารย์หมอ และบุคลากรไว้พร้อมตลอด 24 ชม. เนื่องจากมีการเปิดบ้านเปิดเมือง การเดินทางท่องเที่ยวกลับมาเหมือนปกติ ส่งผลให้มีอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มมากขึ้นทุกวัน และช่วงเทศกาลจะมากขึ้นอีก ทั้งนี้ รพ.ยังต้องเตรียมโลหิตไว้สำรองรักษาผู้ประสบอุบัติเหตุ และผู้ป่วยฉุกเฉิน แต่ยังขาดแคลนโลหิตมาก จึงขอเชิญชวนร่วมกันไปบริจาคได้ทุกวัน
ด้าน ผศ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ ผอ.ศูนย์ศรีพัฒน์ แถลงถึงการดำเนินงานที่ผ่านมารอบปี 64 มีความก้าวหน้าในทุกเรื่อง และจะเพิ่มบริการอย่างทันสมัยยิ่งขึ้นในปี 2565 ขณะที่ รศ.พญ.อรินทยา พรหมินธิกุล ผอ.ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์
แนะนำการให้บริการของศูนย์ฯภายใต้ความเป็นเลิศทางการแพทย์ ทิศทางการให้บริการแบบ Comprehensive healthcare และการดูแลผู้ป่วย problem base approach clinic และ ผศ.พญ.พุดตาน วงศ์ตรีรัตนชัย รองคณบดีฯดูแลงานสื่อสารองค์กรและการประชาสัมพันธ์ กล่าวถึงงานสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ คำแนะนำผ่านแอปฯต่างๆ โดยเฉพาะการทำคลิปเรื่องโรคระบาด โรคที่พบบ่อย หรือที่ประชาชนให้ความสนใจมาก สามารถผลิตคลิปได้กว่าพันเรื่องในรอบปีที่ผ่านมา กระทั่งได้รับรางวัลระดับชาติมาแล้ว เป็นต้น
ก่อนจบการแถลงข่าวมีการซักถามถึงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 การฉีดวัคซีนของคณะแพทยศาสตร์ และการเฝ้าระวังโควิดสายพันธุ์ใหม่โอไมครอนขณะนี้ ซึ่ง ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ) นพ.บรรกิจ โลจนาภิวัฒน์ และทีมผู้บริหารชี้แจงสรุปว่า เรื่องการฉีดวัคซีน เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเร่งให้ผู้ยังไม่ได้รับวัคซีนไปรับซึ่งสามารถวอล์กอินได้ และที่ครบกำหนด 2 เข็มแล้วเข้าฉีดเข็มที่ 3 ตามที่แจ้งทาง SMS ส่วนการรับตรวจวัดภูมิหลังฉีดวัคซีนแล้วทางคณะแพทย์ฯยังไม่มีนโยบายให้บริการ ด้านการป้องกันไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน ที่กำลังระบาดเข้ามาในประเทศขณะนี้ คาดว่าจะมีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่า-รับปีใหม่ โรคสามารถแพร่ได้ง่ายและรวดเร็วระดับ 8.5 เท่าของเชื้อไวรัสอู่ฮั่น และมากกว่าเดลต้า 6.5 เท่า จึงขอให้ลดกิจกรรมที่จะเข้าไปในคนจำนวนมาก หวังว่าการป้องกันอนามัยส่วนบุคคลอย่างเข้มข้นตามมาตรการ สธ.แบบครอบจักรวาลจะทำให้ปลอดภัย
ส่วนคณะแพทยศาสตร์ มช. ซึ่งเป็นทั้งโรงเรียนแพทย์ และโรงพยาบาลรักษาผู้เจ็บป่วย ได้เตรียมพร้อมทั้งบุคลากร และอุปกรณ์การรักษาผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยอย่างเต็มที่ หากไม่ระบาดรุนแรงมากมายสามารถรับมือได้
คุณ มนู พุทธิมูล
ผอ.ภ.5 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน รายงาน