กองทัพอากาศปฏิบัติการ ISR เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า
เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าที่เกิดขึ้นในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทยมีความรุนแรงและเป็นสาเหตุให้พื้นที่ป่าลดลงอย่างรวดเร็ว โดยสาเหตุของการเกิดไฟป่านั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาเพื่อเก็บหาของป่า การล่าสัตว์ป่า และการเผาไร่ โดยปัจจุบันมีพื้นที่ป่าถูกทำลายไปแล้วกว่า ๒,๕๐๐ ไร่ และก่อให้เกิดปัญหามลพิษ ส่งผลให้ค่า PM 2.5 พุ่งสูงจนทำให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองที่มีมลพิษสูงที่สุดในโลกติดต่อกันหลายสัปดาห์
กองทัพอากาศตระหนักถึงความสำคัญของปัญหา จึงจัดอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ร่วมปฏิบัติภารกิจสำรวจจุดความร้อนจากการเผาไหม้ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และบินลาดตระเวนตรวจสอบการลักลอบเผาป่า ตั้งแต่ห้วงวันที่ ๑ – ๒๐ กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาและห้วงที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๓ เมษายนจนถึงปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนภารกิจการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า และป้องกันการเผาซ้ำในพื้นที่ที่เกิดความร้อนมากที่สุด ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย แม่แตง เชียงดาว และอำเภอจอมทอง ทั้งนี้ หน่วยอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ได้ประจำอยู่ ณ ที่ตั้ง กองบิน ๔๑ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อปฏิบัติการ ISR (Intelligence Surveillance and Reconnaissance) สำหรับสนับสนุนการแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยการปฏิบัติที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง ใช้ระบบตรวจจับ หรือ Sensor จากอากาศยานไร้คนขับ และข้อมูลจากดาวเทียมเพื่อการหาจุดความร้อนที่เป็นแหล่งกำเนิดไฟป่า หรือ Hot Spot โดยทำการบูรณาการสัญญาณภาพจากระบบตรวจจับทุกส่วน รวบรวมส่งมายังส่วนบัญชาการและควบคุมในลักษณะ Near Real Time เพื่อให้ผู้บัญชาการสถานการณ์ และหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ทราบถึงพิกัดและเข้าควบคุมไฟป่าได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ รวมทั้งจัดทำเป้าหมายที่ตรวจพบให้กับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) และแจ้งให้ทางศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) จังหวัดเชียงใหม่ทราบ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ประโยชน์โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยาน และกรมป่าไม้ จะวางแผนจัดชุดดับไฟป่า (เจ้าหน้าที่เหยี่ยวไฟ/เสือไฟ/อาสาสมัครประจำท้องถิ่น) เข้าไปยังพื้นที่รับผิดชอบ ซึ่งจะทำให้การดับไฟป่าแต่ละครั้งนั้นตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งนี้ ความสำคัญของ Video Down Link แบบ Near Real Time คือข้อมูลที่ยืนยันสภาพพื้นที่เกิดไฟป่า เพื่อการประสานงานให้กำลังภาคพื้นและอากาศยานเข้าปฏิบัติการควบคุมไฟป่า ในส่วนการจัดทำแฟ้มเป้าหมายนั้นเป็นประโยชน์ในกรณีที่พื้นที่ไฟป่านั้นยังไม่ดับ หรือยังควบคุมไม่ได้ ซึ่งจะต้องนำมาวางแผนควบคุมฯ ในวันถัดไป ทั้งนี้ อากาศยานไร้คนขับ (UAV) สามารถตรวจจับจุดความร้อนที่เป็นลักษณะไฟที่มอด แต่ยังมีเชื้อไฟที่มีขนาดเล็กได้ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำการดับไฟป่าได้ ๑๐๐%
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์นั้น จุดความร้อนมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากมีการระดมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าลงพื้นที่ ส่งผลให้ดัชนีคุณภาพอากาศดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา
คุณ มนู พุทธิมูล
หัวหน้าข่าว ภ.5 นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน รายงาน