พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 3 คดี
1. จับผู้ร้ายสำคัญแดนภารตะ
2. จับเฒ่ามะกันอ้างเป็น Life Coach ขายคอร์สบำบัดโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย
3. รวบหนุ่มแดนมังกรสวมบัตรประชาชนไทยพบประวัติฉ้อโกงประชาชน นานกว่า 14 ปี ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14:00 น.วันที่ 6 กันยายน พ.ศ 2567 ณ ห้องสวนพลู (ห้องแถลงข่าว) ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐพงษ์ แก้วยอด
ผกก.4 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., นายสุภณ สยามบุญนัญ ผอ.สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง, นายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามการทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน สำนักบริหารการทะเบียน และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลจับกุมชาวต่างชาติที่กระทำผิดกฏหมาย ถึง 3 คดี โดยมีดังนี้
[ คดีที่ 1 ] จับผู้ร้ายสําคัญแดนภารตะ
บก.สส.สตม.ได้รับการประสานงานจากศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย ให้ร่วมทําการสืบสวนกรณีพบชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายคนอินเดียรายหนึ่ง พักอาศัยอยู่ในโรงแรมในย่านถนนข้าวสาร เขตพระนคร กรุงเทพฯ มีพฤติการณ์น่าสงสัยโดยจะเก็บตัวอยู่ภายในห้องพักผิดวิสัยของนักท่องเที่ยวทั่วไป อาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรืออาจจะมาก่อเหตุร้ายในประเทศไทย
จากการสืบสวนพบว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวคือ MR.PARVEEN (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สัญชาติอินเดีย จึงได้ประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตอินเดีย ประจําประเทศไทย เพื่อตรวจสอบประวัติ รับแจ้งว่า MR.PARVEEN ชื่อจริงคือ MR.RAKESH หรือ KALA (สงวนนามสกุล) เป็นบุคคลอันตราย ซึ่งได้ก่อคดีอุกฉกรรจ์ในสาธารณรัฐอินเดีย จํานวน 13 คดี เช่น ฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่า ปล้น อุ้มเรียกค่าไถ่ กรรโชกทรัพย์ การโจรกรรม การเตรียมการสมรู้ร่วมคิดทางอาญา ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน ส่วนหนังสือเดินทางที่ MR.PARVEEN ใช้อยู่ก็เป็นหนังสือเดินทางที่เปลี่ยนชื่อนามสกุล เพื่อใช้หลบหนีคดี ซึ่งทางการอินเดียได้แจ้งเพิกถอนหนังสือเดินทาง เล่มดังกล่าวแล้ว
พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. จึงสั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม. เร่งสืบหาตัว MR.PARVEEN เนื่องจากเกรงว่าจะมาก่อเหตุร้ายขึ้นในประเทศไทย จนกระทั่งทราบว่า MR.PARVEEN ไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยสามเสน 6 แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กรุงเทพฯ จึงร่วมกับศูนย์รักษาความปลอดภัยกองบัญชาการ กองทัพไทย ไปตรวจสอบจนกระทั่งพบ MR.PARVEEN ที่ร้านอาหารภายในซอยสามเสน 4 จึงได้แสดงตัวเข้าควบคุม นําตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อกักตัวไว้รอการส่งกลับไปยังสาธารณรัฐอินเดียต่อไป
[ คดที่ 2 ] จับเฒ่ามะกันอ้างเป็น Life Coach ขายคอร์สบําบัดโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย
กก.1 บก.สส.สตม.จับกุมนายดาเรียส (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี สัญชาติอเมริกันพร้อมเห็ดขี้ควายแห้ง (ของกลาง) น้ำหนักชั่งพร้อมถุงบรรจุรวม 1,360 กรัม โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทํางานโดยไม่มีใบอนุญาตทํางาน และมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (เห็ดขี้ควาย) โดยไม่ได้รับอนุญาต นําตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ดําเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บ้านพักภายในซอยลาดพร้าว 108 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.สส.สตม. ได้เข้าไปสืบหาผู้โพสต์ขายยาเสพติดในสื่อสังคมออนไลน์ พบว่านายดาเรียส ได้โพสต์ขายคอร์สบําบัดโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย โดยอ้างว่าเป็น Life Coach ที่มีปริญญาโทด้านจิตวิทยา มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี จึงได้ทําการสืบหาที่อยู่ของนายดาเรียสจนทราบว่าพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งภายใน ซอยลาดพร้าว 108 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
จากนั้นได้ให้สายลับติดต่อเพื่อซื้อคอร์สบําบัด โดยได้นัดให้ไป จ่ายเงิน จํานวน 2,000 บาท/คอร์ส ที่บ้านหลังดังกล่าว หลังจากสายลับได้จ่ายเงินซื้อคอร์สบําบัดให้กับนายดาเรียสแล้ว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้อาศัยอํานาจตามกฎหมายเข้าตรวจสอบ โดยนายดาเรียสไม่สามารถแสดงใบอนุญาตทํางานได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจค้นภายในบ้านพบเห็ดขี้ควายแห้งบรรจุถุงอยู่ภายในช่องแช่แข็งของตู้เย็นที่ชั้นล่าง ของบ้าน จํานวนรวม 13 ถุง น้ำหนักชั่งพร้อมถุงบรรจุรวม 1,360 กรัม และพบเงินล่อซื้อที่ได้ลงบันทึกประจําวันไว้ อยู่ในสมุดโน้ตบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องนอนของนายดาเรียสชั้นสอง
จากการสอบถามนายดาเรียสให้การว่าไม่ทราบว่า ได้เปิดคอร์สบําบัดผู้ที่มีอาการโรคซึมเศร้าด้วยเห็ดขี้ควาย ในราคาคอร์สละ 2,000 บาท โดยวิธีการสูบและผสมในช็อกโกแลตให้รับประทานแล้วจะเปิดเสียงเพลงกล่อมให้เคลิบเคลิ้มและผ่อนคลาย โดยได้เปิดรับบําบัดมาเป็นเวลาประมาณเดือนเศษมีลูกค้ายังไม่กี่ราย เจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับชุดจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
[ คดีที่ 3 ] รวบหนุ่มแดนมังกรสวมบัตรประชาชนไทยพบประวัติฉ้อโกงประชาชน นานกว่า 14 ปี ความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
กก.4 บก.สส.สตม. ได้ทําการสืบสวนคนต่างด้าวทําการสวมบัตรประชาชนไทย พบว่า Mr.Yu (นามสมมติ) อายุ 59 ปี สัญชาติจีน มีพฤติการณ์ต้องสงสัยสวมบัตรประชาชนไทยในชื่อนายยงยุทธ์ จึงได้มีหนังสือไปยังสถาน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจําประเทศไทย เพื่อสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล อัตลักษณ์ ประวัติการ กระทําผิดของ Mr.Yu รับแจ้งว่า Mr.Yu มีประวัติกระทําความผิดในสาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐาน ฉ้อโกง ประชาชน โดยพฤติการณ์คือ Mr.Yu ได้เปิดบริษัทประกอบกิจการโรงแรม และได้ชักชวนหลอกลวงกลุ่มผู้เสียหาย เข้ามาร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท แล้วได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย กก.4 บก.สส.สตม. จึงได้รวบรวมข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องกับ Mr.Yu ส่งให้กับกรมการปกครองเพื่อตรวจสอบ ต่อมากรมการปกครอง ได้มีคําสั่งเพิกถอน บุคคลชื่อนายยงยุทธ์ ออกจากฐานระบบทะเบียนราษฎร์
จากการสืบสวนของ กก.4 บก.สส.สตม. ทราบว่าหลังจากที่ Mr.Yu ได้เดินทางออกจากประเทศไทยทางจังหวัดสระแก้วเพื่อไปยังประเทศกัมพูชา จากนั้นได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ แล้วได้สวมบัตร ประชาชนไทยในชื่อนายยงยุทธ์ อาศัยอยู่ในประเทศไทย มานานกว่า 14 ปี โดยพักอาศัยอยู่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส่วนป้องกันและปรามปรามการทุจริตทางทะเบียนและบัตรประจําตัวประชาชนสํานักบริหารการทะเบียนกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ส่วนการสอบสวนคดีอาญา สํานักการสอบสวนและนิติการ นําหมายค้นของ ศาลแขวงพระนครเหนือเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ Mr.Yu พร้อมบัตรประชาชนไทยชื่อนายยงยุทธ์ ซึ่ง Mr.Yu ให้การ รับสารภาพว่าได้หลบหนีเข้ามาที่ประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติและทําการสวมบัตรประชาชนไทย เมื่อปี พ.ศ.2553 และได้อยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ใน ราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต นําตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดําเนินคดีตามกฎหมาย สําหรับในส่วนการกระทําความผิดในเรื่องของการสวมบัตรและการใช้บัตรประชาชนที่ได้มาจากการกระทํา ความผิด กรมการปกครองได้พิจารณาดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว
# สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทําความผิด ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลท้ังสัญชาติไทยและสัญชาติอ่ืน ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทําความผิด กรุณาแจ้งมายังสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคาถรเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ผู้สนับสนุน