พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 แถลงผลจับกุมกลุ่มวัยรุ่น ก่อเหตุอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏหมาย ใน 2 คดี
เมื่อเวลา 11:00 น.วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2567 ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตำรวจภูธรภาค 5 อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5, พ.ต.อ.กฤษดา พันธุ์เกษม รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่, พ.ต.อ.วีร์กวิน เสริมศรีธนชัย ผกก.สภ.หางดง จ.เชียงใหม่, พ.ต.อ.นฤบาล จิตทยานันท์ ผกก.สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลปฏิบัติในการจับกุม กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายถึง 2 คดี โดยมีดังนี้
[ คดีที่ 1 ] รวบกลุ่มวัยรุ่นที่ใช้อาวุธมีดกระซวก ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเสียชีวิต 1 และบาดเจ็บ 1 ในพื้นที่ สภ.แม่โจ้ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.50 น.ของวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดี ว่ามีทำร้ายร่างกายกันในพื้นที่ ม.8 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รีบเดินทางไปในที่เกิดเหตุ และได้พบว่ามีเด็กวัยรุ่นถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ นายวิชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี และเสียชีวิตอีก 1 คน คือ นายเดชา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี
จากการตรวจสอบเหตุการณ์ ในช่วงก่อนเกิดเหตุพบว่า ผู้เสียหายทั้งสองคนได้ขับรถจักรยานยนต์ มาตามถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ – ลำปาง มุ่งหน้าไปทางแยกฟ้าฮ่าม และมาถึงสพานป่าตัน ได้พบกับผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน พร้อมกับในมือถืออาวุธมีดและขับขี่รถจักรยานยนต์ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ขี่รถไล่ตามทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย 2 คน ตั้งแต่ถนนหน้า รพ.ลานนา ไล่มาจนถึงจุดที่ก่อเหตุ โดยใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงและทำร้ายร่างกายผู้เสียชีวิต ในขณะที่รถเสียหลักล้มข้างทาง ภายหลังจากผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ได้ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายเดชาฯ (ผู้เสียชีวิต) แล้ว ก็ได้ขับรถหลบหนีไป
ต่อมาภายหลังเกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่โจ้ ได้เดินทางเข้าพื้นที่เกิดเหตุ และดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุจนกระทั่งทราบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ชื่อแก๊งค์ว่า “ศรีบุญเรือง” โดยเป็นกลุ่มคนไทใหญ่ และได้ติดตามจนทราบว่าที่อยู่กบดานของทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ “บ้านศรีบุญเรือง” ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย และสามารถตามจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คนได้ โดยมี
1. นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ที่อยู่ ม.4 ต.แม่อาย อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ทะเบียน จฉว 582 เชียงใหม่
2. นายบี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ที่อยู่ ม.7 ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จว.เชียงใหม่ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ ทะเบียน จฉว 582 เชียงใหม่
3. นายซี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปีเศษ ที่อยู่ ม.4 ต.ห้วยทราย อ.แม่ริม จว.เชียงใหม่
ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซุปเปอร์คัพ สีแดงขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
4. นายดี (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ที่อยู่ ม.8 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จว.แม่ฮ่องสอน ซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซุปเปอร์คัพ สีแดงขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
ปมในการก่อเหตุครั้งนี้ เกิดจากกลุ่มวัยรุ่นผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่อีกฝ่ายมองหน้า จึงขับรถติดตามมาทำร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 4 คน จึงได้ส่งตัวดำเนินคดีและแจ้งข้อหา “รวมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” เป็นลำดับต่อไป
[ คดีที่ 2 ] จับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ร่วมกันทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้อาวุธมีด/วัตถุระเบิด ในพื้นที่ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่
เมื่อช่วงเวลากลางคืน วันที่ 24 เมษายน 2567 ณ บริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาสตาร์เอเวนิว 5 หมู่ที่ 5 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายเป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน แจ้งว่าตนได้ใช้รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน เดินทางไปเที่ยวในเขตพื้นที่ อ.เมืองเชียงใหม่ ต่อมาเวลาประมาณ 04.50 น.ของวันเดียวกัน ผู้เสียหายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อกลับที่พัก และก่อนถึงที่พักก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดที่บริเวณที่จอดรถ ตรงบริเวณข้างร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขา สตาร์เอเวนิว 5 หมู่ที่ 5 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จว.เชียงใหม่ เพื่อซื้อของภายในร้าน
ต่อมาเวลาประมาณ 05.10 น.ของวันเดียวกัน ขณะที่ผู้เสียหายยืนอยู่บริเวณลานหญ้าหน้าร้านสะดวกซื้อที่เกิดเหตุ มีกลุ่มวัยรุ่น ใช้รถจักรยานยนต์หลายคันเป็นพาหนะ ขับตรงเข้ามาหา โดยทางกลุ่มผู้เสียหาย กลัวจะถูกทำร้ายจึงวิ่งหลบหนี ต่อมากลุ่มวัยรุ่นได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้หญิงได้รับบาดเจ็บ มีวัยรุ่นส่วนหนึ่งลักเอาของภายในรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย โดยทรัพย์สินที่ถูกลักเอาไป คือ กระเป๋าสตางค์ มีเงินจำนวน 100 บาท, สายชาร์จไอโฟน จำนวน 1 เส้น ราคา 790 บาท, กุญแจรถจักรยานยนต์จำนวน 1 ดอก ราคา 300 บาท และลำโพง ราคาประมาณ 300 บาท โดยวัยรุ่นส่วนหนึ่งก็ได้เข้ามาทุบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีเทา ของผู้เสียหายอีกคันหนึ่ง ได้รับความเสียหาย และอีกส่วนหนึ่งได้โยนระเบิดประดิษฐ์ เป็นถุงพลาสติกภายในมีน้ำมันและระเบิดประดิษฐ์เองแบบกระแทก ขึ้นไปยังบริเวณชั้น 2 ของร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เสียหายได้วิ่งหนีไปหลบซ่อน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
จากการตรวจสอบต่อมาพบว่า มีระเบิดแบบประดิษฐ์เองจำนวน 1 ลูก พันด้วยเทปสีดำ ตกอยู่บริเวณข้างรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย จากนั้นฝ่ายสืบสวนจึงได้เร่งตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด และสายข่าวจากกลุ่มแก๊งวัยรุ่นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงข้อมูลจากสื่อออนไลน์ต่างๆ จนกระทั่งสามารถทราบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุคือกลุ่มผู้ต้องหา จึงได้เชิญตัวมาซักถามปากคำ ที่ สภ.หางดง โดยมีผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย
1. นายอนุเดช อายุ 18 ปี ที่อยู่ ซอย7(ถนนลำพูน) ต.วัดเกต อ.เมืองเชียงใหม่ จว.ชม.
2. เยาวชนชายอายุ 16 ปี ที่อยู่ ม.5 ต.เชียงดาว อ.เชียงดาว จว.เชียงใหม่
3. เยาวชนชาย อายุ 16 ปี ที่อยู่ ม.5 ต.หนองผึ้ง อ.สารภี จว.เชียงใหม่
4. นายพีรย์ดน อายุ 19 ปี ที่อยู่ ม.7 ต.ทรายมูล อ.สันกำแพง จว.เชียงใหม่
5. เยาวชนชาย อายุ 17 ปี ที่อยู่ ม.4 ต.แม่เหี๊ยะ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
6. นายศิลาเสก อายุ 18 ปี ที่อยู่ ม.8 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จว.เชียงใหม่
7. เยาวชนชาย อายุ 17 ปี ที่อยู่ ม.5 ต.แม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จว.แม่ฮ่องสอน
8. เยาวชนชาย อายุ 17 ปี ที่อยู่ ม.1 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จว.เชียงใหม่
9. เยาวชนชาย อายุ 16 ปี ที่อยู่ ม.2 ต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง จว.เชียงใหม่
10. เยาวชนชาย อายุ 14 ปี ที่อยู่ ม.4 ต.ยางเนิ้ง อ.สารภี จว.เชียงใหม่
11. เยาวชนชาย อายุ 17 ปี ที่อยู่ ม.3 ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จว.เชียงใหม่
ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ โดยผู้ต้องหาทั้งหมดยืนยันว่าตนคือบุคคลตามภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด และได้ร่วมไปก่อเหตุตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุดังกล่าวจริง สาเหตุทำไปเพราะความคึกคะนอง
ทั้งนี้จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้มีผู้ต้องหารายหนึ่งมีอาวุธปืนในการก่อเหตุดังกล่าวด้วย โดยได้ยอมรับว่าตนเป็นบุคคลดังกล่าวตามภาพกล้องวงจรปิดจริง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน , โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น ปลอมหน้าหรือทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ , โดยมีอาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม, ร่วมกันทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันมีและใช้ซึ่งวัตถุระเบิด , ร่วมกันพาอาวุธ (มีด,วัตถุระเบิด) ไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุอันสมควร, ร่วมกันมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และซ่องโจร”
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน
คุณสิวะ โอฬารภานุกุล
ผู้สื่อข่าวพิเศษส่วนกลาง
นิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน
รายงาน