พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.พร้อม พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมขบวนการขนชาว เสือโคร่งเบงกอล เครือข่าย “อัสราฟ”
เวลา 11:00 น.วันที่ 18 มกราคม พ.ศ.2567 ณ ห้องสวนพลู (ห้องแถลงข่าว) ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.มานัด ศรีวงษา รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม., พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ชินวุฒิ ตั้งวงษ์เลิศ ผกก.ตม.จว.สงขลา,, พ.ต.อ.พูลศักดิ์ แก้วศรีขาว ผกก.ตม.จว.นราธิวาส,, พ.ต.อ.เด่นชาย เจริญยุทธ ผกก.สส.บก.ตม.6, พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงศ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.ท.กฤตกรอิชณน์ คงขำ สว.ตม.จว.ปัตตานี ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งเป็นบุคคลในขบวนการขนแรงงานบังคลาเทศผิดกฎหมาย จำนวน 2 ราย มีดังนี้
รายที่ 1 ตม.จว.สงขลา ร่วมกับ กก.1 บก.สส.สตม., กก.ปอพ.บก.สส.สตม., กก.สส.บก.ตม.6, ตม.จว.ปัตตานี, กก.6 บก.ปคม., สภ.ควนมีด , ส.รน.2 กก.6 บก.รน. จับกุม นายอัสราฟ (นามสมมติ) อายุ 46 ปี สัญชาติบังกลาเทศ บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนาทวี ที่ 481/2566 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2566 ในฐานความผิด “ร่วมกัน ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่” สถานที่จับกุมบริเวณหน้าศาลจังหวัดปัตตานี อ.เมืองปัตตานี จว.ปัตตานี นำตัวส่ง พงส.สภ.ควนมีด จว.สงขลา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
รายที่ 2 ตม.จว.นราธิวาส ร่วมกับ กก.1 บก.สส.สตม., กก.ปอพ.บก.สส.สตม., กก.สส.บก.ตม.6, ตม.จว.ปัตตานี, กก.6 บก.ปคม., สภ.เมืองนราธิวาส, กก.7 บก.รน. จับกุม นายอะบู (นามสมมติ) อายุ 47 ปี สัญชาติบังกลาเทศ บุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดนราธิวาส ที่ 1073/2566 ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2566 ในฐานความผิด “เป็นผู้ให้ที่พักพิง ช่วยเหลือ หรือ ช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” สถานที่จับกุมบริเวณหน้าศาลจังหวัดปัตตานี อ.เมืองปัตตานี จว.ปัตตานี นำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองนราธิวาส จว.นราธิวาส ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีนี้สืบเนื่องจากห้วงเดือน มกราคม – มีนาคม 2566 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สงขลา, ตม.จว.ปัตตานี, ตม.จว.นราธิวาส และ กก.สส.บก.ตม.6 จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติบังกลาเทศหลบหนีเข้าเมืองจำนวนรวม 41 คน รวม 5 คดี เหตุเกิดต่างท้องที่กัน พร้อมขยายผลการจับกุมดำเนินคดีผู้ให้การช่วยเหลือ จำนวน 10 คน (เป็นคนสัญชาติไทย 8 คน คนสัญชาติบังกลาเทศ 1 คน คนสัญชาติปากีสถาน 1 คน) จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรมพบว่าคนต่างด้าวทั้งหมดลักลอบเข้าราชอาณาจักรมาทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย – กัมพูชา บริเวณจังหวัดสระแก้ว หลังจากนั้นจะนั่งรถประจำทางมาที่กรุงเทพฯ เพื่อส่งให้นายอะบู คนต่างด้าวสัญชาติบังกลาเทศลูกน้องนายอัสราฟ ซึ่งถูก จับกุมแล้ว ทำหน้าที่จัดหายานพาหนะมาส่งให้กลุ่มคนไทยผู้ที่รอรับช่วงต่อที่จังหวัดสงขลานำพาออกทางช่องทางธรรมชาติบริเวณจังหวัดนราธิวาสเพื่อไปลักลอบทำงานที่ประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนใช้เวลา เกือบ 1 ปี ในการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งทราบว่า นายอัสราฟ สัญชาติบังกลาเทศ ประกอบอาชีพนักธุรกิจบริษัท นำเข้า – ส่งออกสินค้าต่างประเทศ แต่เบื้องหลังทำหน้าที่ติดต่อหาคนต่างด้าวทั้งหมดกับนายหน้าที่ประเทศบังกลาเทศและประเทศกัมพูชา เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเดินทางในประเทศไทย ร่วมกับผู้ต้องหาทั้ง 10 คน ที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ เก็บค่าหัว 100,000-150,000 บาท/คน พบว่าเครือข่ายอัสราฟ มีเงินหมุนเวียนในขบวนการกว่า 117 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลจังหวัดนาทวีออกหมายจับนายอัสราฟฯ ในคดีความผิดข้อหา “ร่วมกัน ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ของพนักงานเจ้าหน้าที่” ต่อมาสามารถจับกุมนายอัสราฟฯ ได้ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และได้นำตัวส่ง พงส.สภ.ควนมีด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้วยนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
# สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณผู้สนับสนุน