พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.แถลงผลการจับกุมขบวนค้ายาเสพติดแฝงตัวเป็นพนักงานไลน์แมนส่งยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.แถลงผลการจับกุมขบวนค้ายาเสพติดแฝงตัวเป็นพนักงานไลน์แมนส่งยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์

พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.แถลงผลการจับกุมขบวนค้ายาเสพติดแฝงตัวเป็นพนักงานไลน์แมนส่งยาเสพติด และจับกุมผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศอ.ปส.ตร., พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./ รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. มอบนโยบายมายัง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก, พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม, พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ, พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์, พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ร่วมแถลงผลการปฏิบัติคดีที่สำคัญ 2 คดีดังนี้

คดีที่ 1 พ.ต.อ.ธรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส. บช.น. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปิยรัช เวสสะ โกศล รอง ผกก.ดส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. เข้าทำการจับกุม นายเนติ ฯ อายุ 22 ปี และ นายเรวัฒน์ ฯ อายุ 21 ปี ใน ความผิดฐาน “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) หรือยาไอซ์ ยาบ้า ,ยาอี เพื่อการค้าโดยผิดกฏหมาย ,ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) เพื่อการค้าโดยผิดกฏหมาย โดยมีของกลางดังนี้
1. ยาไอซ์ จำนวน 3 กิโลกรัม
2. ยาบ้า จำนวน 34,000 เม็ด
4. คีตามีน จำนวน 1.197 กิโลกรัม
5. รถจักรยานยนต์ฮอนด้า N Max สีเทา ทะเบียน 8กด1049 กทม.
6. รถจักรยานยนต์ฮอนด้า N Max สีฟ้า ทะเบียน 4 ขด 8631 กทม.
7. โทรศัพท์ ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น I Phone 8 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง (ของนายเนติฯ)
8. โทรศัพท์ ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น I Phone XR จำนวน 1 เครื่อง (ของนายเนติฯ)
9. โทรศัพท์ ยี่ห้อ แอปเปิ้ล รุ่น I Phone X จำนวน 1 เครื่อง (ของนายเรว้ฒน์ฯ)
10. สมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย จำนวน 1 เล่ม
11. สมุดบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 1 เล่ม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาถึงพฤติการกระทำความผิด เป็นดังนี้ นายเนติฯ และ นายเรฒน์ฯ จะนัดกับลูกค้าผ่านทางแอพลิเคชั่นไลน์ เพื่อนำยาเสพติดดังกล่าวไปส่งให้ โดยมีการแฝงตัวเป็นพนักงานไลน์แมน และมีกล่องเก็บพัสดุไลน์แมนอยู่ด้านหลังยานพาหนะที่ใช้ส่งยาเสพติด ทำการนัดส่งยาเสพติดให้ลูกค้าในจุดนัดรับที่ลับตาผู้คน สารภาพว่าได้เริ่มรับและส่งยาเสพติดมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2564 จนถึงปัจจุบัน โดยจะได้รับค่าจ้างรวมเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 50,000 บาท และทุกครั้งที่ได้รับยาเสพติดก็จะนำไปเก็บไว้ที่บ้านเลขที่ 39/441 ม.11 ชอยเพชรเกษม 4 ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯก่อนการจับกุม เจ้าหน้าที่ กก.ดส.บช.น. ได้เข้าจับกุม นายเนติ ฯ ที่หน้าบ้านเลขที่ 39/441 ม.11 ซอยเพชรเกษม 4 ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ (บ้านที่พบยาเสพติด) พบยาคีตามีน จำนวนประมาณ 15 กรัม ที่กระเป๋ากางเกงด้านซ้ายตัวที่สวมใส่ขณะถูกจับกุม และพบว่ายังมียาเสพติดซุก ซ่อนอยู่อีกที่ ภายในบ้านเลขที่ 39/441 ฯลฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าตรวจค้น และพบของกลางตามบันทึกข้างต้น จากนั้นให้การว่า นายเรวัฒน์ฯ ซึ่งร่วมกับตน
และเป็นเจ้าของห้องซึ่งเก็บยาเสพติดดังกล่าว กำลังมั่วสุมกันที่บ้านเลขที่ 39/415 ม.11ซอยเพชรเกษม 4 ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบ
1.นายเรว้ฒน์ อายุ 21 ปี
2.นายซาคร อายุ 25 ปี
3.นายวีรชัย อายุ 25 ปี
4.นายกิติพงศ์ อายุ 18 ปี
5.นายสิทธิชัย อายุ 20 ปี
6.นายอนุชา อายุ 25 ปี
7.นายชานนท์ อายุ 23 ปี
8.นายเอกภพ อายุ 24 ปี
9.นายสิริวิชญ์ อายุ 25 ปี
พร้อมพวกกำลังมั่วสุมกันอยู่ พร้อมยาโรฮิบนอล จำนวน 420 เม็ด (ฟลูไนตราซีแพม) เจ้าหน้าที่ตำรว จ กก.ดส. บช.น. จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมหรือมั่วสุม ณ ที่ใดในสถานที่แออัด หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทประเภทที่ 2 (ฟลูไนตราซีแพม) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ,เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คดีที่ 2 สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 1 มี.ค 2565 Mr.cheurev min สัญชาติกัมพูชา อายุ 31 ปี
ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อพนักงานสอบสวน สน.สำโรงเหนือ ว่า บุตรชายจำนวน 3 คน อายุ 13 ปี, 10 ปี และ 7 ปี ได้หายออกจากบ้านพักไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ก.พ .65 ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มี.ค.65 ญาติผู้เสียหายได้มาพบ เด็กชาย ที่หายออกจากบ้าน ทราบชื่อภายหลัง คือ ด.ช กระต๊อน อายุ 10 ปี , ด.ช อาท อายุ 7 ปี และ ด.ช จีโอ อายุ 13 ปี ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าอินทรา ประตูน้ำ แขวง
มักกะสัน เขตราชเทวี ซึ่งทางญาติของผู้เสียหาย ได้ทำการช่วยเหลือ ด.ช ทั้ง 2 คนไว้ได้ ส่วน ด.ช จีโอ ทางผู้
ต้องหาคือ นายสุท้ศน์ ฯ หรือหมึก ทราบชื่อภายหลัง ได้พาวิ่งหลบหนีไป จนกระทั่งวันที่ 13 มี.ค.65 เวลา 13.00 น ทางมูลนิธิกระจกเงา ได้เข้ามาประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (กก.ดส) ว่า เด็กชายจีโออายุ 13 ปี ได้ถูกลักพาตัวเพื่อมาขอทาน บริเวณสะพานลอยฯ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ดส. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาได้ออก สืบสวนหาข้อมูลและเร่งติดตาม จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ได้พบตัวนายสุท้ศน์ หรือหมึกฯ พาเด็กชาย จีโอ มาขอทานบริวณบนสะพานลอยหน้าตลาดบางขุนศรี ถนนจรัญสนิทวงศ์ ทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้
ทำการแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยเหลือ “เหยื่อจากการค้ามนุษย์” ทั้งนี้ได้ประสานเจ้าหน้าที่ พม.เพื่อมาทำการคัดแยกเหยื่อฯ พร้อมทั้งได้ทำบันทึกจับกุมตัวผู้ต้องหา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยมีพฤติการณ์ต้องโทษคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ สน.มักกะสันเมื่อปี 55

# บช.น.ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าในการบำบัดทุกข์และบำรุงสุขให้แก่พี่น้องประชาชน หากพบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่ได้ทันที

# เพื่อความผาสุขของพี่น้องประชาชน ด้วยความห่วงใย จาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า