สน.บางขุนเทียน รายงานผลการจับกุม ตามหนังสือ บช.น.ด่วนที่สุด ที่ 0015.132/7768 ลง 13 มิ.ย.66 เรื่อง ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ของ บช.น.ประจำเดือน มิ.ย.66 (ห้วงระหว่างวันที่ 19-23 มิ.ย.66)
วันที่ 19 มิ.ย.66 สน.บางขุนเทียน ได้รายงานผลจับกุม มีตามลำดับดังนี้
(ลำดับที่ 1) ภายใต้อำนวยการของ พ.ต.ท.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง รอง ผกก.สส.สน. บางขุนเทียน โดยเจ้าพนักงานชุดจับกุมมี พ.ต.ท.ขจร ธูปประกายศรี, พ.ต.ต.สังคม หาญณรงค์ สว.สส.ฯ,ร.ต.อ.นิวัฒน์ ชำนาญเนาว์ รอง สว.สส.สน.บางขุนเทียน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ได้จับกุมผู้ต้องหา นางสาวบัวบุญ (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ (บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ 434/2566 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2566) โดยมีข้อหากล่าวหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 127 วรรค 1”
สถานที่จับกุม บ้านเลขที่ 262/4 ถนนพรหมราษฎร์ แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ วันเวลาที่จับกุม 19 มิถุนายน เวลา 06.30 น. โดยมีพฤติการณ์ก่อนการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในระดับรายขายส่งในพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ เมื่อปลายปี 2565 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลาดพลู ได้ทำการขยายผลถึงเครือข่ายการค้าดังกล่าว ลงมาในระดับลูกค้ายาเสพติด ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาด มีจำนวนมากกว่า 99 ราย และได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับตัวการ หรือเจ้าของยาเสพติด และลูกค้าซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดในระดับแพร่ระบาด จากศาลอาญาธนบุรี ได้จำนวน 39 หมาย ในข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” และเลขาธิการ ป.ป.ส.ได้อนุมัติแจ้งข้อหาดังกล่าวแล้ว
จากการสืบสวนของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และพวก จนทราบว่านางสาวบัวบุญฯ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 434/2566 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2566 พักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 262/4 ถนนพรหมราษฎร์ แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯจึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบและประชุมวางแผนเพื่อทำการปิดล้อมตรวจค้นและจับกุมบุคคลตามหมายจับเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาวันที่ 19 มิถุนายน 2566 เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ชุดจับกุม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางขุนเทียน,สน.แสมดำ ได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) ว่านางสาวบัวบุญฯ อยู่ที่บ้านเลขที่ดังกล่าว อาศัยอำนาจหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี ที่ 305/2566 ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2566 ตรวจค้นบ้านเลขที่ 262/4 ถนนพรหมราษฎร์ แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ เมื่อไปถึงพบนางสาวบัวบุญฯ มีตำหนิรูปพรรณตรงกับบุคคลตามหมายจับ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าพนักงานตำรวจพร้อมทั้งแสดงหมายค้นและหมายจับให้นางสาวบัวบุญ ทราบจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว นางสาวบัวบุญ ฯ รับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายของผู้ถูกจับกุมให้ทราบ และก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นางสาวบัวบุญ ฯ ดูจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงทำการตรวจค้นตัวและตรวจค้นภายในห้องพัก ผลการตรวจค้น ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่นใด พบโทรศัพท์เคลื่อนที่ จำนวน 2 เครื่อง (ของกลางลำดับที่ 1 และ 2) อยู่บริเวณบนฟูกที่นอนภายในห้องจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี ซึ่งเป็นทรัพย์สินของนางสาวบัวบุญฯ ไว้เพื่อตรวจสอบ เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติดต่อไป และได้นำตัวนางสาวบัวบุญฯ ผู้ถูกจับกลับมายัง สน.แสมดำ เพื่อสอบปากคำเบื้องต้นและจัดทำบันทึกจับกุม
(ลำดับที่ 2) จับกุมผู้ต้องหา นายพิเชษฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ (บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรีที่ 389/2566 ลงวันที่ 26 พฤษภาคม 2566) ในข้อหากล่าวหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 127 วรรค 1” โดยสถานที่จับกุม ร้านขายของชำปากซอยเทียนทะเล 26 แยก 18 หมู่บ้านวงแหวนชัชวาล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ วันเวลาที่จับกุม 18 มิถุนายน เวลา 18.50 น.โดยมีพฤติการณ์ก่อนการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากการจับกุมนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในระดับรายขายส่งในพื้นที่ผ่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯเมื่อปลายปี ๒๕๖๕ เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ตลาดพลู ได้ทำการขยายผลถึงเครือข่ายการค้าดังกล่าว ลงมาในระดับลูกค้ายาเสพติด ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับลูกค้าในพื้นที่ชุมชนแพร่ระบาดมีจำนวนมากกว่า ๙๙ ราย และได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถออกหมายจับตัวการ หรือเจ้าของยาเสพติด และลูกค้าซึ่งเป็นนักค้ายาเสพติดในระดับแพร่ระบาด จากศาลอาญาธนบุรี ได้จำนวน ๓๙ หมาย ในข้อหา”สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด”และเลขาธิการป.ป.ส.ได้อนุมัติแจ้งข้อหาดังกล่าวแล้วจากการสืบสวนของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. และพวก ทราบว่านายพิเชษฐ์ หรือจิว ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ ๓๘๙/๒๕๖๖ ลงวันที่๒๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ พักอยู่บ้านเลขที่ ๑๗/๙๒๒-๙๒๓ ซอยบางขุนเทียน-ชายทะเล ๒๖ แขวงท่าข้าม เขตบางชุนเทียน กรุงเทพ1 ต่อมาได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) ว่า ขณะนี้นายพิเชษฐ์ หรือจิว อยู่ที่ร้านขายของชำปากซอย ๒๖ แยก ๑๘ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบ นายพิเชษฐ์ หรือจิว นั่งอยู่ที่ร้านค้าดังกล่าว จริง จึงได้เข้าแสดงตัวเป็นพนักงานตำรวจพร้อมแสดงหมายจับให้นายพิเชษฐ์ หรือจิว ดูและอ่านข้อความในหมายจับจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว นายพิเชษฐ์ฯ รับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับจริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับดังกล่าวมาก่อน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายของผู้ถูกจับกุมให้ทราบ จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
(ลำดับที่ 3) จับกุมผู้ต้องหา นายธนกฤต (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ (บุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี จ.411/2566 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566) โดยมีข้อหากล่าวหา “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง”
สถานที่จับกุม อู่ซ่อมรถยนต์อ๋อ 77 ซ.อนามัยงามเจริญ 29 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร วันเวลาที่จับกุม วันที่ 19 มิถุนายน 2566 เวลาประมาณ 13.15 น. โดยมีพฤติการณ์ก่อนการจับกุมครั้งนี้ ก่อนการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ (ขอปิดนาม) ว่านายธนกฤตฯ ผู้ต้องหาตามหมายศาลอาญาธนบุรี จ.411/2566 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 ปรากฏตัวอยู่บริเวณอู่ซ่อมรถยนต์ ย่านเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบตามที่สายลับแจ้ง เมื่อไปถึงบริเวณอู่ซ่อมรถยนต์พบ นายธนกฤตหรือโจ๊ก ขณะยืนอยู่บริเวณภายในอู่ซ่อมรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับศาลอาญาธนบุรี จ.411/2566 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2566 และได้อ่านข้อความในหมายจับให้ผู้ต้องหาฟัง และให้ผู้ต้องหาอ่านเองจนเป็นที่เข้าใจแล้ว รับสารภาพว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง และยังไม่เคยถูกดำเนินคดีหรือมอบตัวในคดีนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทราบ นำตัวผู้ต้องหามาทำบันทึกจับกุมที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการต่อไป
ขอขอบคุณ
พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์
ผกก.สน.บางขุนเทียน
คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์
ที่ปรึกษานิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร
