รวบแก๊งนักธุรกิจแดนโสม ปั่นหุ้น หลอกเพื่อนร่วมชาติลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 1,600 ล้านบาท หลบหนีกบดานไทย
เวลา 14:00 น.วันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2566 ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารพระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงผลการจับกุมรวบแก๊งนักธุรกิจแดนโสม ปั่นหุ้น หลอกเพื่อนร่วมชาติลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 1,600 ล้านบาท หลบหนีกบดานไทย
สืบเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ สตม. พิจารณาดำเนินการ กรณีกองการต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการประสานงานจากกงสุลฝ่ายตำรวจ สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ขอให้ผลักดันผู้ต้องหาตามหมายจับสาธารณรัฐเกาหลี และเป็นบุคคลที่ต้องการตัวของทางการสาธารณรัฐเกาหลีตามประกาศตำรวจสากลสีแดง (INTERPOL Red Notice) จำนวน 3 ราย ได้แก่
1. MR.KIM หรือ นาย คิม อายุ 54 ปี
2. MR.YANG หรือ นาย หยาง อายุ 60 ปี
3. MR.YE JUN หรือ นาย เย จุน อายุ 51 ปี
ซึ่งได้ร่วมกันกระทำความผิดในลักษณะหลอกลงทุน และปั่นหุ้น ต่อมาเมื่อประชาชนมาลงทุนแล้ว จึงได้ยักยอกเงินที่ได้หลบหนีมายังประเทศไทย มีผู้เสียหายหลายราย มูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 6 หมื่นล้านวอน หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท
เมื่อประมาณต้นเดือน ธันวาคม 2565 เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม.ได้จับกุม MR.YE JUN หรือ นาย เย จุน อายุ 51 ปี ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (overstay)” หนึ่งในสมาชิกแก๊ง นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง จว.ชลบุรี โดยคดียังอยู่ในชั้นศาล
ต่อมา เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 66 เวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. นำโดย พ.ต.ต.สิทธิมณ สร้อยภู่ระย้า สว.กก.4 บก.สส.สตม., ร.ต.อ.อดิศร บุญชุ่ม รอง สว.กก.ปอพ.บก.สส.สตม. พร้อมกำลัง ได้ร่วมกันจับกุม 1. MR.KIM หรือ นาย คิม อายุ 54 ปี 2. MR.YANG หรือ นาย หยาง อายุ 60 ปี นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดี ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (overstay)”
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันสืบสวนติดตาม นาย คิม อายุ 54 ปี และ นาย หยาง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็น 2 ผู้ต้องหา ที่ยังติดตามจับกุมไม่ได้ โดยได้ทำการตรวจสอบข้อมูลในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สตม. พบว่า นาย คิม เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 ก.ค. 65 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผผ.90 และสิ้นสุดการอนุญาตวันที่ 22 ต.ค. 65 และ นาย หยาง เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 65 ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราประเภท ผผ.90 และสิ้นสุดการอนุญาตวันที่ 31 ต.ค. 65 ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นาย คิม และ นายหยาง ได้หลบหนีไปอยู่ด้วยกันที่ คอนโดหรูย่านสุขุมวิท จึงได้ไปตรวจสอบพบว่าทั้ง 2 คน ได้ย้ายที่พักหลบหนีหลังจากที่ นาย เย จุน หนึ่งในสมาชิกถูกจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนติดตามจนกระทั่ง ได้พบบุคคลสัญชาติเกาหลีตำหนิรูปพรรณคล้าย นาย คิม และ นายหยาง ที่บริเวณสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งย่านจังหวัดปทุมธานี จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางพบว่า ไม่ปรากฎข้อมูลการขออยู่ต่อ จึงได้เชิญตัวมายัง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อตรวจสอบข้อมูลในเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. ผลการตรวจสอบไม่พบข้อมูลการขออยู่ต่อ จึงแจ้งข้อหาและจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์เป็นนักธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่ประเทศเกาหลีใต้ มีการเข้าซื้อบริษัทใหญ่และเป็นเจ้าของถึง 5 บริษัท มีการเปิดขายหุ้นบริษัท สร้างความน่าเชื่อถือ
โดยนำเสนอข้อมูลบริษัทและผลประกอบการเท็จ เป็นเหตุให้ประชาชนหลงเชื่อ เข้ามาลงทุน อันเป็นลักษณะการปั่นหุ้น จากนั้นจึงได้หลบมาหนีมายังประเทศไทย
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด
กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง