พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว แถลงผลจับกุม “191 ขยายผลเครือข่ายยาเสพติด ตัดเส้นทางลำเลียงเข้าเมืองกรุง”
จากนโยบายสำนักงานตำรวจ แห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.รอย อิงค์ไพโรงน์ รอง ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ, พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง
ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์, พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. มอบหมายนโยบายมายังกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ โดย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ., พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี, พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ, พ.ต.อ.โรจนินทร์ ทองใบ, พ.ต.อ.พิทักษ์ สุทธิกุล, พ.ต.อ.ศุภวัช ปานแดง และ พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะวณิช รอง ผบก.สปพ.
กองกำกับการสายตรวจ โดย พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.นิพนธ์ นิธิการุณย์เลิศ, พ.ต.ท.จักริน พิริยะจิตตะ, พ.ต.ท.โชติช่วง รัศมี และ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ และ พ.ต.ต.เชษฐพร บัวจันทร์ สว.งานสายตรวจ 2 บก.สปพ.
จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย
ผู้ต้องหารายที่ 1 นายบอล (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 33 ปี
ผู้ต้องหารายที่ 2. นายฟลุ๊ก (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 38 ปี
พร้อมด้วยของกลาง
1) ยาบ้า จำนวนประมาณ 100,000 เม็ด
2) รถยนต์โตโยต้า รุ่นยาริส สีขาว จำนวน 1 คัน
3) อาวุธปืนกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซิกซาวเออร์
จำนวน 1 กระบอก
4) เครื่องกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 20 นัด
5) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง
6) สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 1 เล่ม
(โดยแจ้งข้อกล่าวหา )
ผู้ต้องหาที่ 1 “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”
ผู้ต้องหาที่ 2 “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
( สถานที่เกิดเหตุ/จับกุม ) บริเวณหน้าร้านของฝากโมริแม่กุหลาบ ถ.พหลโยธิน อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
ต่อเนื่อง บ้านพักใน ต.สันตันธง อ.เมือง จ.ลำพูน
( พฤติการณ์ในคดี )
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 2 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวนประมาณ 196,000 เม็ด , ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) น้ำหนักรวมประมาณ 300 กิโลกรัม โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์ หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ที่บริเวณบ้านเลขที่ 11 ซ.พัฒนาการ 69 แยก 2-1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ
งานสายตรวจ 2 ได้ดำเนินการสืบสวนและขยายผล ติดตามพฤติการณ์บุคคลในเครือข่าย ซึ่งยังคงมีพฤติการณ์กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษอย่างต่อเนื่อง จึงได้สืบสวนหาข่าวสารการกระทำความผิดของกลุ่มบุคคลในเครือข่ายดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่านายบอล (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) และนายฟลุ๊ก (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ทางภาคเหนือ และเป็นเครือข่ายยาเสพติดที่เคยติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมก่อนหน้านี้ไปแล้ว โดยบุคคลดังกล่าวจะขับรถยนต์ลำเสียงยาเสพติดลงมาจากพื้นที่ ภาคเหนือ เพื่อนำไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางตามสั่งการของผู้ว่าจ้างอยู่เป็นประจำจึงได้ทำการสืบสวนซ้อมูล
บุคคล ยานพาหนะ เฝ้าระวัง และติดตามพฤติการณ์มาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งวันที่ 6 เมษายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าขบวนการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดดังกล่าว จะลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อไปส่งมอบให้กับลูกค้า โดยจะลำเลียงมากับรถยนต์โตโยต้า รุ่นยาริส
สีขาว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางขึ้นไปตรวจสอบตามเส้นทางที่ขบวนการนี้ใช้ในการเดินทางเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร
จนกระทั่งพบรถยนต์เป้าหมายจึงได้ขับติดตามมาถึงบริเวณร้านของฝากโมจิแม่กุหลาบ ถ.พหลโยธิน อ.เมืองนครสวรรค์
จ.นครสวรรค์ รถยนต์เป้าหมายจอดโดยมีนายบอลเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปแสดงตัวขอตรวจค้น
ผลการตรวจคันพบยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณแผงประตูรถยนต์ทั้ง 4 ด้าน จากนั้นจึงได้ขยายผลไปจับกุมผู้สั่งการ คือนายฟลุ๊ก (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) ที่บ้านพักใน ต.สันต้นธง อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมด้วยอาวุธปืน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 20 นัด
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักลอบจำหน่ายยาบ้า โดยไปรับยาบ้ามาจากชายชาวเขาที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยรู้จักกันสมัยตอนที่อยู่ในเรือนจำ ซึ่งวางไว้ตามหลักกิโลเมตร ยาบ้าที่นำมาจำหน่ายนั้น ซื้อมาในราคาลูกละ 8,000 บาท (ลูกละ 2,000 เม็ด) นำไปจำหน่ายต่อในราคา 10,000 บาท เมื่อได้เงินแล้วจะนำมาแบ่งกัน โดยทำมาแล้วประมาณ 4 – 5 เดือน
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ทำการสืบสวนขยายผล เพื่อติดตามดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น และผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายอื่นต่อไป ทั้งนี้ในห้วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ มีประชาชนจำนวนมากได้เดินทางกลับต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศได้มีการระดมสรรพกำลังในการดูแลการเดินทางของพี่น้องประชาชน ทำให้ผู้กระทำผิดอาศัยโอกาสนี้ ลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายย้อนกลับเข้าสู่พื้นที่
กรุงเทพมหานคร กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้มีการติดตามและวิเคราะห์ อาชญากรรมศึกษา พฤติกรรมการกระทำความผิดของกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง จึงนำมาสู่การจับกุมตัวผู้กระทำความผิดในครั้งนี้
หากประชาชนท่านใด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด เกี่ยวกับการจำหน่ายยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมาย สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ กองบังคับการสายตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ
สายด่วน 191, เพจนักสืบพระนคร, เพจสายตรวจ และปฏิบัติการพิเศษ ได้ตลอด 24 ชม.
