“สืบ ตม.3 ขยายผลออกหมายจับและจับกุมผู้ร่วมขบวนการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมือง”
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ตม.3, พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.ตม.3 และ พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงข่าว การจับกุมขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยเป็นการ ขยายผลจับกุม 2 คดี ดังนี้
คดีที่ 1 จับกุมตัวนายสมโพด อายุ 53 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ จ.132/2563 ลง 21 ก.ค.63 ในความผิดฐาน “ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรโดยตนรู้ว่าเข้ามาในราชอาณาจักร โดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายไก่ กับพวกพร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 18 คน และของกลาง ได้แก่ รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล จำนวน 1 คัน, โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง และสมุดควบคุมการจ่ายงาน โดยนายไก่ ได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีมีพฤติกรรมลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งในชั้นจับกุมและสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยต่อมาจากการสอบสวนขยายผลทำให้ทราบข้อมูลกลุ่มเครือข่ายที่ยังหลบหนีอยู่ จึงได้ทำการสืบสวนและรวบรวมพยานจนปรากฏหลักฐานเพียงพอ ว่านายสมโพด ทำหน้าที่คัดแยกคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเป็นผู้ขับรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลเพื่อบรรทุกสัมภาระของคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาดังกล่าว จึงได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อออกหมายจับ นายสมโพด ดังกล่าว ต่อมาได้สืบสวนจนทราบว่า นายสมโพด ได้หลบหนีไปกบดานอยู่ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้ติดตามจับกุมตัวไว้ได้ในที่สุด
คดีที่ 2 จับกุมตัว นางสาวพนิดา อายุ 31 ปี สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ จ.49/2554 ลงวันที่ 21 ก.พ.54 ให้จับกุมนางสาวพนิดา อายุ 31 ปี สัญชาติไทย ในข้อหา “ร่วมกันช่วยเหลือ ซ่อนเร้น ด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายนั้นพ้นจากการจับกุม”คดีนี้สืบเนื่องจากมาตรการระดมกวาดล้างผู้มีพฤติการณ์และเครือข่ายเกี่ยวกับการคนขนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.3 ได้สืบสวนทราบว่า นางพนิดาฯ ซึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องกับกลุ่มขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองนี้ และได้ถูกศาลอนุมัติหมายจับไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2554 มีอายุความ 10 ปี โดยนางพนิดาฯ ได้หลบหนีกบดานหากแต่ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มลักลอบขนคน ต่อมาได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาดังกล่าวได้หลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จว.สระแก้ว จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนที่อายุความจะหมดในวันที่ 7 ส.ค.63 นี้
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขันและปราบปรามการกระทําความผิดในด้านต่างๆ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทําความผิด กรุณาแจ้งมายังสํานักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
