พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 3 คดี

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 3 คดี

พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.แถลงผลจับกุมต่างด้าวทำผิดกฏหมาย 3 คดี

เมื่อเวลา 13:30 น.วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2567 ณ ห้องสวนพลู (ห้องแถลงข่าว) ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.มอบหมายให้ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.ท.วีรชา สนั่นศิลป์ รอง ผกก.สส.บก.ตม.3, พ.ต.ท.ธงชัย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.ท.หญิง ทิวาพร รุ่งโรจน์ สว.ตม.จว.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลการจับกุมต่างด้าวใน 3 คดี โดยมีรายละเอียดดังนี้

[ คดีที่ 1 ] รวบหนุ่มแดนมังกรอยู่เกินวีซ่าแอบย่องรับงานดูแลนักท่องเที่ยวแบบ VIP พบประวัติตุ๋นเงินเหยื่อกว่าสิบล้านหนีซุกไทย
กก.สส.บก.ตม.1 จับกุมนายหมิง (นามสมมติ) อายุ 42 ปี สัญชาติจีน โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต, อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บริเวณล็อบบี้โรงแรมแห่งหนึ่งในย่าน ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับการแจ้งเบาะแสว่ามีชายชาวต่างชาติลักษณะคล้ายคนจีน มีพฤติการณ์น่าสงสัยว่าจะทำงานและอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จึงได้ทำการสืบสวนจนพบว่าชายชาวต่างชาติคนดังกล่าวคือนายหมิง ซึ่งพักอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมย่านรามคำแหง จากการเฝ้าติดตามพฤติกรรมพบว่านายหมิงมักจะเดินทางออกจากคอนโดมิเนียมไปรับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและพาไปที่พัก และช่วยประสานงานกับสถานที่ต่าง ๆ ในลักษณะ private tour เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาติดต่อธุรกิจที่ต้องการความเป็นส่วนตัว และไม่ต้องการท่องเที่ยวในรูปแบบของบริษัทนำเที่ยว เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้พยานหลักฐานครบองค์ประกอบความผิด จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจสอบเอกสารนายหมิงขณะกำลังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ในการเช็คอินโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก จากการตรวจสอบพบว่าการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของนายหมิงได้สิ้นสุดไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ.67 จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมดำเนินคดีดังกล่าว
จากการประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของสาธารณรับประชาชนจีน รับแจ้งว่านายหมิง มีประวัติกระทำความผิดฐานฉ้อโกงวิสาหกิจ กล่าวคือเมื่อช่วง เดือน มกราคม 2566 นายหมิงได้แอบอ้างตนเป็นผู้จัดการฝ่ายขายประจำเขตของบริษัทไวน์แห่งหนึ่ง และได้ไปติดต่อเสนอขายไวน์หายากมูลค่าสูงให้กับผู้ค้าปลีกหลายราย โดยหลอกว่าจะให้ลดราคาสิทธิพิเศษ 10% ชักจูงให้โอนเงินค่าสินค้าไปยังบัญชีธนาคารของตนเองจำนวนสามครั้ง รวมเป็นเงินเกือบ 2 ล้านหยวน และนายหมิงก็มิได้จัดหาไวน์ให้จริง แต่กลับตัดการติดต่อกับผู้เสียหายทั้งหมด ต่อมาสำนักงานความมั่นคงสาธารณะเมืองฉือเจียจวง มณฑลเหอเป่ย ได้ออกประกาศสืบจับ และเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายหมิง

[ คดีที่ 2 ] ตม.สมุทรสาคร รวบ 2 ผัวเมียชาวเมียนมา ผิด พ.ร.ก.ทำงานฯ ลักลอบไลฟ์สด ขายรถยนต์และรถจักรยานยนต์ มูลค่ากว่า 12 ล้านบาท
ตม.จว.สมุทรสาคร จับกุมนายหนี่ (นามสมมติ) อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา และนางมา (นามสมมติ) อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา สองสามีภรรยา โดยกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จว.สมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมหน้าห้องพักแห่งหนึ่ง ณ บริเวณ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ตม.จว.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้ประกอบการซื้อ-ขายรถ ในพื้นที่ว่ามีคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา โพสต์รูปและไลฟ์สดขายรถจักรยานยนต์มือสองผ่านแพลตฟอร์ม Facebook และ TikTok โดยมีการประกอบกิจการ มาเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการซื้อ-ขายรถในพื้นที่ จึงได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่ามีคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมาซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ห้องพักบริเวณ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ทำการโพสต์รูปและไลฟ์สดขายรถจักรยานยนต์มือสองผ่านช่องทางออนไลน์จริง และมีการซื้อขายต่อเนื่องในลักษณะเป็นการประกอบอาชีพตามปกติ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.สมุทรสาคร จึงได้ไปตรวจสอบห้องพักเลขที่ดังกล่าวพบนายหนี่และนางมากำลังบันทึกวิดีโอด้วยโทรศัพท์มือถือ โดยนายหนี่ ทำหน้าที่อธิบายแนะนำและเสนอขายรถจักรยานยนต์ ส่วนนางมา ทำหน้าที่บันทึกวิดีโอ จากการสอบถามนายหนี่และนางมาให้การรับสารภาพว่ากำลังบันทึกคลิปวิดีโอเพื่อเตรียมโพสต์เสนอขายรถจักรยานยนต์ และยอมรับว่าได้โพสต์คลิปวิดีโอซื้อ-ขายรถในลักษณะดังกล่าวมาประมาณปีกว่า มูลค่าซื้อขายเป็นเงินรวมกว่า 12 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้พื้นที่บริเวณหน้าห้องพักที่ตนเข้าพักอาศัยนี้บันทึกคลิปวิดีโอและไลฟ์สดขายรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมนายหนี่ และนางมา ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว

[ คดีที่ 3 ] รวบ 2 หนุ่มเมียนมา ซุกยาบ้า-ครอบครองกระสุนปืน พบของกลางยาบ้ากว่า 300 เม็ด
ตม.จว.สมุทรสาคร ร่วมกับ กก.ปอพ.บก.สส.สตม. และ กก.สส.ตม.3 จับกุมผู้ต้องหาจำนวน 2 คน ดังนี้
( 1 ) นายโซ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า), มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
( 2 ) นายปาย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อเสพ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกขาม จว.สมุทรสาคร ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมห้องพักใน ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร
ก่อนการจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งเบาะแส/ร้องเรียน ว่าพบคนต่างด้าวมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร จึงได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่ามีคนต่างด้าวซึ่งพักอาศัยอยู่ในห้องพักบริเวณ ต.โคกขาม อ.เมืองสมุทรสาคร จว.สมุทรสาคร มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้า จึงได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจค้นห้องพักดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ นายโซ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี สัญชาติเมียนมา การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุด พบเครื่องกระสุนปืนขนาด .380 จำนวน 1 นัด ที่บริเวณขอบประตูห้องน้ำ ยาบ้า จำนวน 349 เม็ดซุกซ่อนอยู่ในอแดปเตอร์ กล่องพลาสติก และบริเวณโช๊ครถจักรยานยนต์ และยังตรวจพบถุงซิปใส และถุงซิปสีน้ำเงิน จำนวนกว่า 150 ถุง (ใช้สำหรับแบ่งจำหน่ายยาบ้า) จากการสอบถามนายโซ รับว่ากระสุนปืนและยาบ้าเป็นของตนเองจริง นอกจากนี้ยังพบนายปาย (นามสมมติ) อายุ 26 ปี สัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแสดง พร้อมยาบ้าจำนวน 3 เม็ด จึงได้นำตัวนายปายไปตรวจปัสสาวะ
หาสารเสพติด ผลการตรวจพบเมทแอมเฟตามีน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้จับกุมนายโซ และนายปาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.โคกขาม จว.สมุทรสาคร ดำเนินคดีในข้อหาดังกล่าว
# สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า