สาวเพชรบูรณ์ ขี่ จยย.ล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต บริจาคอวัยวะ ต่อชีวิตใหม่ได้อีกถึง 5 คน

สาวเพชรบูรณ์ ขี่ จยย.ล้มหัวฟาดพื้นเสียชีวิต บริจาคอวัยวะ ต่อชีวิตใหม่ได้อีกถึง 5 คน

วันที่ 21 ก.พ.2568 ณ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์หญิงนวพร พูลสุวรรณ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พร้อมด้วย นางรุ่งระวี มีทองคำ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนางปัญจนา พรายอินทร์ หัวหน้าฝ่ายการพยาบาลโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ร่วมมอบประกาศเกียรติคุณ พรีดเคารพศพ ให้แก่ น.ส.อุไรทิพย์ ฤทธิ์เม้า อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ 6 ต.น้ำร้อน อ.เมืองเพชรบูรณ์ ที่เสียชีวิตและญาติบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปต่อชีวิตให้แก่บุคคลอื่นได้อีกถึง 5 คนโดยมีนางบุญเพ็ง ฤทธิ์เม้า อายุ 63 ปี ผู้เป็นแม่และญาติๆ เป็นตัวแทนรับมอบ แพทย์หญิงนวพร พูลสุวรรณ เปิดเผยว่าคนไข้มาโรงพยาบาลเนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มเอง มีอาการเลือดคั่งในสมอง แพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลได้ดูแลรักษาโดยการผ่าตัดแต่คนไข้เกิดอาการสมองตายซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว พยาบาลและเจ้าหน้าที่ศูนย์บริจาคอวัยวะโรงพยาบาลเพชรบูรณ์จึงได้ไปพูดคุยถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อไปช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งก็ได้รับความยินยอมจากแม่และญาติๆ โดยแจ้งว่ายินดีที่จะมอบอวัยวะทุกอย่างที่จะสามารถนำไปช่วยคนอื่นได้ ซึ่งอวัยวะที่ได้ประกอบด้วยไต 2 ข้าง ตา 2 ข้าง และลิ้นหัวใจ ซึ่งสามารถนำไปต่อชีวิตให้ชีวิตใหม่แก่บุคคลอื่นได้อีกถึง 5 คน นับเป็นกุศลอย่างสูง และบุญกุศลนี้ขอให้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี
ด้านนางบุญเพ็ง ฤทธิ์เม้า เปิดเผยว่าผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวตนเอง เคยแต่งงานมีลูกชาย 2 คน วัน 9 ขวบ 1 คนและ 7 ขวบ 1 คน ต่อมาได้แยกทางกับสามีแต่ก็ยังช่วยกันดูแลเลี้ยงลูก ส่วนลูกสาวตนเองไม่ได้ทำงานอะไรเนื่องจากต้องดูแลยายที่อายุมากแล้ว ในวันเกิดเหตุในช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.พ.2568 ลูกสาวขี่รถจักรยานยนต์จะไปทำธุระต่างหมู่บ้าน ก็ได้มีคนมาแจ้งว่ารถจักรยานยนต์ล้มหัวฟาดถนนอาการสาหัสกู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ต่อมาได้รับแจ้งว่าลูกสาวมีอาการสมองตายและพยาบาลก็ได้เข้ามาพูดคุยถึงเรื่องบริจาคอวัยวะ ซึ่งตนก็ไม่ลังเลตัดสินใจให้ทันทีโดยแจ้งว่าหากอวัยวะส่วนใดของลูกสาวที่จะสามารถนำไปช่วยเหลือผู้อื่นได้ก็ยินดีที่จะบริจาค ซึ่งทราบว่ามาได้ไต 2 ข้าง ตา 2 ข้าง และลิ้นหัวใจ สามารถนำไปให้ชีวิตใหม่ได้อีกถึง 5 ชีวิต ตนถือว่าเป็นการทำบุญใหญ่ให้แก่ลูกเป็นครั้งสุดท้ายและบอกลูกสาวว่าให้ไปดี ไม่ต้องห่วงคนข้างหลัง