ชาวเพชรบูรณ์นับร้อยถึงจุดเดือด ยกทัพเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม หลังเข้าร่วมโครงการเอื้ออาทร ครั้นมีผู้เสียชีวิตแต่ไม่ได้รับเงินฌาปนกิจ

ชาวเพชรบูรณ์นับร้อยถึงจุดเดือด ยกทัพเข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม หลังเข้าร่วมโครงการเอื้ออาทร ครั้นมีผู้เสียชีวิตแต่ไม่ได้รับเงินฌาปนกิจ

วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ณ ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีชาวบ้านจากอำเภอต่างๆในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์กว่า 100 คน เดินทางมา ยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์เนื่องจากได้ร่วมโครงการทำฌาปนกิจกับ “โครงการเอื้ออาทรภายใต้การดำเนินกิจกรรมขององค์กรพัฒนาอาชีพการเกษตรเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา หมู่ 10” แต่ปรากฎว่าเมื่อเสียชีวิตแล้วกลับไม่ได้รับเงินตามข้อตกลงที่ให้ไว้ในสัญญา เบื้องต้นพบว่ามูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยมีชาวบ้านกว่า 100 คนกำลังรวมตัวกันอยู่ศาลาด้านข้างศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อทำการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อรวบรวมนำไปยื่นต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม
นางคำเพียร (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี ที่อยู่หมู่ 9 ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายได้กล่าวว่า ตนได้รับการเชิญชวนจากตัวแทนเพื่อให้เข้าร่วมในโครงการนี้โดยบอกว่าไม่มีการจำกัดอายุ จะเอาใครมาทำประกันก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องเสียเงินค่าประกันปีละ 2,500 บาท ถ้าเสียชีวิตหลังจากเข้าโครงการไปแล้วมากกว่า 6 เดือน ก็จะได้รับเงิน 50,000 บาท แต่ถ้าเข้าโครงการมากกว่า 1 ปี เมื่อเสียชีวิตก็จะได้เงิน 1 แสนบาท และถ้าเข้าโครงการแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปเมื่อเสียชีวิตก็จะได้รับเงิน 1.2 บาท ตนจึงได้สมัครเข้าร่วมในโครงการโดยทำให้กับญาติ ผลปรากฏว่า เมื่อญาติเสียชีวิตซึ่งตามกติกาตนจะต้องได้รับเงิน 4 แสนบาท จึงได้นำเอกสารไปยื่นกับตัวแทนกระทั่งบัดนี้เวลาผ่านไปหลายเดือนแล้วยังไม่ได้รับเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ครั้นเมื่อโทรทวงถามไปยังประธานองค์กร ก็ได้แต่บอกว่าเงินยังไม่เข้าบัญชี และเมื่อครั้งล่าสุดเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ตนก็ได้โทรไปทวงถามอีก ก็รับปากว่าจะได้รับต้นเดือนกรกฎาคม 2567 และเมื่อถึงเวลาต้นเดือนกรกฎาคม 2567 ก็ยังไม่ได้รับเงินตามที่บอกไว้ เมื่อตนโทรไปทวงก็บอกแค่เพียงว่าเงินยังไม่เข้าบัญชีให้รอไปก่อน และจากการพูดคุยกับหลายๆคน ทำให้รู้ว่ามีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้รับเงินเช่นเดียวกัน ตนจึงได้นัดหมายกันมายื่นหนังสือเรียกร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม ในวันนี้
นายธรวิวรรธน์ พันธ์เจริญ ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ให้ผู้เสียหายรวบรวมรายชื่อ จากนั้นก็จะทำการแยกเป็นรายอำเภอ เพื่อประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ต่างๆ ให้ดำเนินการสอบสวนผู้เสียหาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ประกอบการดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าไม่มีการจดทะเบียนเป็นฌาปนกิจใดๆ จึงเข้าข่ายความผิดฌาปนกิจสงเคราะห์รวมทั้งฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และมีการโฆษณาชวนเชื่อตามงานศพต่างๆ โดยพฤติกรรมก็คือศพแรกๆ อาจจะได้เงินตามเงื่อนไข แต่พอเสียชีวิตมากขึ้นก็ได้รับเงินไปครบตามจำนวน ไปจนถึงไม่ได้รับเงินเลย ซึ่งในส่วนของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ก็จะได้ทำการขอความร่วมมือกับผู้นำหมู่บ้านในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อเข้าไปร่วมโครงการดังกล่าว และหากใครที่หลวมตัวไปสมัครเข้าร่วมโครงการ ก็สามารถไปแจ้งความร้องทุกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อที่จะได้รวบรวมมาดำเนินการพร้อมกันในทีเดียว
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าในเบื้องต้นหลังจากผู้เสียหายรวบรวมรายชื่อและแยกเป็นรายอำเภอแล้ว จะประสานกับทาง สภ.แต่ละพื้นที่ๆมีการหลอกลวง เพื่อระดมพนักงานสอบสวนไปรับเรื่องร้องทุกกับประชาชนในพื้นที่ โดยจะมีการนัดหมายและกำหนดวันกันอีกครั้ง