ชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่แถลงข่าวการจัดงานเทศกาลลาบเมืองประกวดเทพีและเทพบุตรลาบเมือง 64 เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีล้านนา

ชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่แถลงข่าวการจัดงานเทศกาลลาบเมืองประกวดเทพีและเทพบุตรลาบเมือง 64 เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีล้านนา
ทางชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่ รักษาวัฒนธรรมการปรุงและบริโภคอาหารพื้นเมือง จัดกิจกรรมงานเทศกาลลาบเมือง 64 มีการประกวดเทพี-เทพบุตร ลาบเมือง 64 เน้นรักษาประเพณีวัฒนธรรมล้านนา รับปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ เช่นการทานอาหารพื้นเมือง การแต่งกายพื้นเมือง และอู้กำเมือง บนเวทีพบกับ 7 ศิลปินล้านนาชื่อดัง

วันที่ 23 มีนาคม เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมสมายล์ ล้านนา นายอำนาจ จงยศยิ่ง ประธานชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่ นายสินชัย พชรธนาพร ประธานจัดงาน เทศกาลลาบเมือง 64 นายจิรชัย คงคาดิษฐ ประธานจัดประกวดเทพี-เทพบุตร ลาบเมือง ได้ร่วมกันแถลงข่าว การจัดงาน เทศกาลลาบเมือง 64
นายอำนาจ กล่าวการจัดงาน เทศกาลลาบเมือง 64 นี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีการปรุงอาหารพื้นเมือง เช่น ลาบ อาหารจานโปรด ของคนล้านนา ที่ขึ้นชื่อเป็นที่นิยมบริโภคของคนทั่วไป จึงต้องส่งเสริมให้มีการปรุงรส และบริโภค เพื่อสืบสานให้คงอยู่กับชาวล้านนาตลอดไป
นายอำนาจกล่าวอีกว่า ในอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน มีนักข่าว กลุ่มมักลาบ ทุกเย็นหลังปิดข่าว ต่างพากันไป กิ๋นลาบ หลู้ กัน ตามร้านต่างๆ เช่นร้านลาบต้นยาง ร้านลาบชาวทุ่ง ร้านลาบดีขม จนถึงไปปรุงทำลาบทานกันเองในหมู่คนชอบลาบ หมุนเวียนไปตามบ้านของแต่ละคน ผลัดกันเป็นเจ้าภาพ และบางครั้งเปลี่ยนสถานที่ พากันไปทำลาบบนโขดหิน ลำธารน้ำตกห้วยแก้ว ตรงขัวขาว (สะพานขาว) ถนนศรีวิชัย
ต่อมาเมื่อนายอำนาจ จงยศยิ่ง เป็นประธานชมรมสื่อมวลชนเชียงใหม่ ได้เปลี่ยนชื่อ ชมรมสื่อมวลชนเชียงใหม่ เป็นชื่อ ชมรมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ จึงริเริ่มจัดงาน มหกรรมลาบเมือง อย่างเป็นทางการที่ร้านอาหารคุ้มขันโตก ของ จรัล มโนเพ็ชร ซึ่งกำลังโด่งดังมีชื่อเสียง จากเพลงอุ้ยคำ ในขณะนั้น เป็นบรรยากาศบ้านโบราณ มีบรรเลงดนตรี สะล้อ ซอ ซึง จนกลายเป็นงานประเพณี ของสื่อมวลชนเชียงใหม่ มานานถึง 40 ปี
สำหรับปีนี้ และปี 62-63 ชมรมผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ งดจัดกิจกรรมงานมหกรรมลาบเมือง เนื่องจากประธานฯเสียชีวิต และสถานการณ์โควิด
ทาง ชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่ เห็นว่าการว่างเว้นกิจกรรมไป 2 ปีติดต่อกัน จะทำให้ผู้คนลืมงานประเพณียิ่งใหญ่นี้ไปได้ คณะกรรมการ ชมรมสื่อมวลชนอาวุโสเชียงใหม่ ที่อดีตเป็นผู้ริเริ่มงานนี้มา ทุกคนล้วนมีประสบการณ์สูงอยู่แล้ว เห็นว่าไม่ควรหยุดงานนาน จึงมีมติจัดงานโดยใช้ชื่องานว่า เทศกาลลาบเมือง 64 ทั้งนี้เพื่อคงไว้ ซึ่งประเพณีวัฒนธรรม การปรุงลาบอาหารเมือง ของคนล้านนาสืบไป โดยเน้นให้ผู้ร่วมงาน แต่งกายพื้นเมืองงาม และ การอู้กำเมือง ในงาน บรรยากาศล้านนาจริงๆ
นายสินชัย ประธานจัดประกวดแข่งขันลาบ กล่าวว่า การจัดแข่งขันครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ แข่งขันประกอบการปรุงลาบ ทีมละ 3 คน การแข่งขันลาบลีลา ทีมละ 2 คน และประกวดจัดผักกับลาบสวยงาม ซึ่งจะต้องใช้ผักที่ทานกับลาบ และต้องมากชนิดด้วย
รางวัลทีมชนะเลิศ 3,000 บาท พร้อมเขียงทองเกียรติยศ รองชนะเลิศ อันดับ 1 เงิน 2,000 บาท รองชนะเลิศ อันดับ 2 เงิน 1,000 บาท พร้อมเขียงทองเกียรติยศ และชมเชย 2 รางวัลๆละ 500 บาท พร้อมโล่เกียรติยศ
สำหรับค่าสมัครเข้าแข่งขัน ทีมลาบ 500 บาท ส่วน แข่งลาบลีลา และแข่งจัดผักกับลาบ ไม่เสียค่าสมัคร ขณะกรรมการมอบเนื้อหมู ปลอดโรคให้ 1 กิโลกรัม จะไม่อนุญาตให้ใช้หมูที่อื่น เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันโรคติดต่อจากสุกร
ทางด้านนายจิรชัย ประธานจัดประกวดเทพี-เทพบุตร ลาบ 64 กล่าวว่า การจัดประกวดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือเทพี และเทพบุตร เทพีชิงมงกุฏเพชร สายสะพาย ขันน้ำพานรอง พร้อมเงินสด 7,000 บาท รอง 3,000 บาท 2,000 บาท 1,500 บาท และขวัญใจสื่อมวลชน 1,000 บาท ส่วนรางวัลเทพบุตร เท่ากับ รางวัลเทพี ซึ่งจัดเป็นครั้งแรก ผู้เข้าประกวดในชุดพื้นเมือง
นายจิรชัย กล่าวอีกว่า อดีตที่ผ่านมาเวทีนางงามลาบ สาวงามที่ได้ตำแหน่งนี้ ไปคว้ามงกุฏนางสาวไทยมาแล้ว คือ อรอนงค์ ปัญญาวงค์ หลายคนเป็นรองนางสาวเชียงใหม่
งานเทศกาลลาบเมือง 64 จัดในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน 64 ณ ลานอเนกประสงค์อุทยานการค้ากาดสวนแก้ว เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 น.เป็นต้นไป มีรายการบันเทิง นักร้องดังมาร่วมมากมาย ประกอบด้วย 7 ศิลปินระดับประเทศ และล้านนานำโดย เดวิด อินธี/วิฑูรย์ ใจพรหม/ครูแอ๊ด ภาณุทัต/มุกดา ญาใจ/ครูเหมียว ธนภร/บุษบา ล้านนา และ ชาชา(น้องตุลย์) นอกจากนี้ยังมีการแสดงศิลปพื้นเมืองอีก 4 ชุด จากคณะวิจิตรศิลป์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ งานนี้ฟรีตลอดงาน ภายใต้การควบคุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด.