“คนบ้านเดียวกัน ทำกันได้ลงคอ” รวบชายขี่รถพ่วงข้าง เข้าร้านชำ เดินตรงเข้ากระชากลิ้นชัก หยิบเงิน 2,000 พร้อมบุหรี่ 2 ซอง

“คนบ้านเดียวกัน ทำกันได้ลงคอ” รวบชายขี่รถพ่วงข้าง เข้าร้านชำ เดินตรงเข้ากระชากลิ้นชัก หยิบเงิน 2,000 พร้อมบุหรี่ 2 ซอง

“คนบ้านเดียวกัน ทำกันได้ลงคอ” รวบชายขี่รถพ่วงข้าง เข้าร้านชำ เดินตรงเข้ากระชากลิ้นชัก หยิบเงิน 2,000 พร้อมบุหรี่ 2 ซอง

เมื่อเวลา 15:50 น.วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ณ ที่ร้านขายของชำ ชื่อร้าน “แก้วภา” หมู่ที่ 1 ต.ดอยลาน อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ในขณะที่ นางสาวนิศาชล (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี (ผู้เสียหาย) นั่งเฝ้าร้านขายของชำอยู่ตรงบริเวณที่โต๊ะเก็บเงิน นายอุทิศ หรือโก้ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ขับขี่รถจักรยานยนต์มีพ่วงข้าง มาจอดตรงบริเวณถนนหน้าร้าน จากนั้นนายอุทิศ หรือโก้ฯ ได้เดินตรงเข้าไปตรงบริเวณโต๊ะเก็บเงินที่นางสาวนิศาชลฯ นั่งอยู่ และได้เอามือไปดึงลิ้นชักที่เก็บเงิน พร้อมกับบอกว่า เอาตังค์มา เอาตังค์มา พูดซ้ำๆอยู่หลายครั้ง ซึ่งในตอนแรกนางสาวนิศาชลฯ พยายามที่จะดันลิ้นชักไม่ให้นายอุทิศ หรือโก้ เปิดออก แต่ในขณะเดียวกันนั้นเองสายตาเหลือบไปมองที่เอวของนายอุทิศ หรือโก้ และสังเกตุเห็นว่ามีมีดตัดไม้เหน็บอยู่ จึงได้ปล่อยมือออกจากลิ้นชักเก็บเงินและวิ่งออกมาบริเวณด้านหน้าร้าน พร้อมกับร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่อยู่ตรงบริเวณนั้น และในเวลาเดียวกัน นางแก้วภา (สงวนนามสกุล) มีศักดิ์เป็นป้าของ นางสาวนิศาชลฯ และเป็นเจ้าของร้าน ซึ่งกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัวด้านหลังร้านได้ยินเสียงร้องให้ช่วยเหลือจึงรีบวิ่งออกมาดูที่ในร้านปรากฏว่าเห็น นายอุทิศ หรือโก้ กำลังเปิดลิ้นชักโต๊ะเก็บเงินและนำเงินไปจำนวน 2,000 บาท พร้อมกับบุหรี่ 2 ซอง แล้วรีบวิ่งออกจากร้านและขับขี่รถหลบหนีไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตู้ยามจำบอน สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุ จึงรีบมาที่เกิดเหตุ และได้สืบสวนติดตามจับกุมตัวนายอุทิศฯ จนกระทั่งเวลาช่วงเย็น จึงได้ทำการจับกุมตัวนายอุทิศฯ ได้พร้อมด้วยยาเสพติดของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย ผู้เสียหายจึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย เพื่อดำเนินคดีกับนายอุทิศฯ จนกว่าคดีถึงที่สุด ในความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์ โดยมีอาวุธ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป” และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในฐานความผิด “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า จำนวน 14 เม็ด) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” และนำตัวไปดำเนินคดีในขั้นต่อไป

ผู้สนับสนุน

ขอขอบคุณ
พ.ต.ท.ฉันทฤทธิ์ เหล่าไพโรจน์จารี

รอง ผกก.ป.สภ.เมืองเชียงราย
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร
คุณภูเมธา โอฬารภานุกุล


ผู้สื่อข่าวพิเศษส่วนกลางนิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน รายงาน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า