พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ สั่งรวบหัวขโมย ฉกกระจกข้างรถเบ๊นซ์

พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ สั่งรวบหัวขโมย ฉกกระจกข้างรถเบ๊นซ์

พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ สั่งรวบหัวขโมย ฉกกระจกข้างรถเบ๊นซ์

วันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ.2567 พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เผยว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุจาก นายอุมาตร (สงวนนามสกุล) เจ้าของ/ผู้ดูแลร้านล้างรถ (ผู้เสียหาย) ที่ตั้งอยู่ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ แจ้งว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2567 มีลูกค้าได้นำรถมาใช้บริการทำการดูแลรักษา ล้าง อัดฉีด ขัดสีรถ ซึ่งในขณะนั้นเป็นช่วงเวลาตอนเย็นจึงไม่สามารถจะทำให้เสร็จ จากนั้นลูกค้าที่นำรถมาใช้บริการ จึงได้จอดรถไว้กับทางร้านเพื่อในวันรุ่งขึ้นจะได้ให้ทางร้านบริการทำตามรายการที่แจ้งไว้
หลังจากนั้นในช่วงเช้าทาง นายอุมาตร (สงวนนามสกุล) เจ้าของ/ผู้ดูแลร้านล้างรถ กำลังจะนำรถมาล้างแต่ก็ต้องผงะ ที่ได้เห็นว่ากระจกรถทั้ง 2 ข้างหายไป จึงได้รีบเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความ จึงรายงานให้ทาง พ.ต.อ.พนม เชื้อทองฯ ได้รับทราบ และได้สั่งการให้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด CCTV ของทาง สตช. ในยุค “บิ๊กปั๊ด” ที่ติดตั้งไว้ตามจุดอับ จุดล่อแหลม ที่อยู่ในบริเวณร้านล้างรถและบริเวณใกล้เคียง ตลอดจนติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีโดยด่วน
ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบชายต้องสงสัยที่มีบุคลิกคล้ายกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งทำเหมือนเป็นคนเก็บของเก่าเดินอยู่ในบริเวณร้านล้างรถที่ได้ก่อเหตุไว้ ด้วยปฏิภาณและไหวพริบของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขออนุญาตตรวจสอบ และเชิญตัวมาที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อสอบถาม จากนั้น ผู้ก่อเหตุก็ยอมรับว่าบุคคลที่ก่อเหตุตามกล้องวงจรปิด CCTV คือตนเอง และแจ้งว่าชื่อ นายอรรคพร หรือ โน๊ต (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี
จากการสอบถามผู้ก่อเหตุ ถึงพฤติการณ์ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ได้ให้การว่าตนได้เดินเข้ามาที่ร้านล้างรถจริง และได้เห็นว่ากระจกรถเบ๊นซ์มีราคาที่สามารถนำไปขายได้ จึงได้ทำการก่อเหตุเพื่อจะนำกระจกไปขายและนำเงินมาใช้จ่ายส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด บุกรุกในเคหสถานในเวลากลางคืน และ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหสถานโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือ การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และดำเนินคดี
จากนโยบายของทาง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ได้เน้นกำชับให้ข้าราชการตำรวจ คอยสอดส่องดูแลทุกข์สุขของประชาชน และที่สำคัญในเรื่องการป้องกันการก่อเหตุและอาชญากรรม ในทุกพื้นที่ พร้อมกับให้ตรวจสอบการใช้งานและประสิทธิภาพของกล้อง CCTV ที่ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร.เป็นผู้ริเริ่มนำมาใช้เพื่อป้องกันการก่อเหตุอาชญากรรม ให้บำรุงรักษาและอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี จากนโยบายนี้ พ.ต.อ.พนม เชื้อทองฯ ได้นำมาปฏิบัติใช้ และสามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีในขั้นต่อไป

ผู้สนับสนุน

ขอขอบคุณ
พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง
ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ


คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์
ที่ปรึกษา กต.ตร.สน.ทุ่งมหาเมฆ
ที่ปรึกษานิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน


สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า