คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ ประธานชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย นำคณะสมาชิกชมรมฯ เดินทางทัศนศึกษา ณ กุ้ยหยาง น้ำตกหวงกั่วซู่ หมู่บ้านวูเจียงอ้าย ประเทศจีน

คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ ประธานชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย นำคณะสมาชิกชมรมฯ เดินทางทัศนศึกษา ณ กุ้ยหยาง น้ำตกหวงกั่วซู่ หมู่บ้านวูเจียงอ้าย ประเทศจีน

คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ ประธานชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย นำคณะสมาชิกชมรมฯ เดินทางทัศนศึกษา ณ กุ้ยหยาง น้ำตกหวงกั่วซู่ หมู่บ้านวูเจียงอ้าย ประเทศจีน

เมื่อเวลา 12:30 น.วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 2 เคาน์เตอร์ D สมาชิกชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย นำโดย คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์ ประธานชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย คุณอุดม ตรงมณีธรรม ประธานกิตติมศักดิ์, คุณวิชัย เหล่ายิ่งเจริญ ประธานฝ่ายทัศนศึกษา, คุณนิพนธ์ ตั้งจิตมุ่งมั่น ประธานสมาชิกสัมพันธ์และนายทะเบียน, สมาชิกชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย และกลุ่มเพื่อนคุณนิพนธ์ รวม 80 กว่าท่าน ร่วมเดินทางไปทัศนศึกษา ณ กุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว น้ำตกหวงกั่วซู่ หมู่บ้านวูเจียงอ้าย ประเทศจีน โดยการเดินทางเริ่มจากวันที่ 8 – 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 มีกำหนด 6 วัน 5 คืน โดยในแต่ละวัน จะมีกิจกรรมไปทัศนศึกษายังสถานที่ใดและมีอะไรบ้าง เชิญท่านมาดูข้อมูลกันครับ

☆ วันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 เวลา 08:00 น. คณะฯ ได้ร่วมเดินทางไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูง และใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง สู่เมืองลี่ปอ โดยคณฯได้เข้าชม “อุทยานเจ็ดหลุมน้อย” และ “เจ็ดหลุมใหญ่” ซึ่งเป็นจุดชมวิวแห่งชาติระดับ ต้นๆของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในประเทศจีน ตั้งอยู่ในหุบเขาแคบและมีความกว้างเพียง 1 กม. และความยาว 12 กม. ประกอบด้วย ถ้ำ ป่า ทะเลสาบ น้ำตก เจ็ดหลุมเล็กนั้นมีอะไรดี ซึ่งชื่อเจ็ดหลุมเล็กนี้มาจากสะพานโบราณ ที่สมัยก่อนเป็นทางเดียวที่จะเชื่อมพื้นที่ระหว่าง “ซีหนานไปยัง กว่างซี” จากนั้น
เวลา 12:00 น. คณะฯ ได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังจากนั้น เข้าชมน้ำตกรายา ซึ่งมาจากคำว่า ลายะ ในภาษาชนผ่าบูยี แปลว่า สาวงาม เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานเจ็ดหลุมน้อยในกุ้ยหยาง มีชั้นน้ำตก 68 ชั้น มีความสูง 10 เมตร และกว้าง 30 เมตร ซึ่งมีทิศทางตามยาวของแม่น้ำเชียงชูนั้น ถือเป็นทิวทัศน์กลุ่มน้ำตกสามมิติที่น่าอัศจรรย์ น้ำตกอยู่ริมหน้าผาและผู้คนอยู่ใต้น้ำตก ละอองน้ำของน้ำตกโดนใบหน้านักท่องเที่ยวกำลังเดินผ่าน สามารถล้างความเหนื่อย และรู้สึกผ่อนคลายมีชีวิตชีวา จากนั้น ได้ล่องเรือแม่น้ำชู ซึ่งในอดีตชาวบ้านแถวนี้เลี้ยงชีพด้วยการตกปลา ซึ่งน้ำมีความใสไหลไปทางทิศตะวันออก และยังได้ชมสะพานเทียนเชิงเฉียว สะพานหินธรรมชาติที่มีความสูง 73 เมตรและ ความกว้างของหลุม 22 เมตร อยู่ในหุบเขาลึกที่มีหินงอกหินย้อยและป่าสีเขียวเรียงซ้อนกันบนหน้าผาราวกับภาพวาดสีน้ำมัน จากนั้น
เวลา 18.00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร และเดินทางสู่สถานีรถไฟความเร็วสูง และใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง เดินทางกลับสู่ ที่พัก ณ เมืองกุ้ยหยาง

☆ วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 เวลา 07.00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าของโรงแรม จากนั้นคณะฯ ร่วมเดินทางใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง สู่ สถานที่ท่องเที่ยว UNSEEN ที่มีชื่อเสียง “หุบเขาเสินฉวน” หรืออุทธานหุบเขาบ่อน้ำเทวดา ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในประเทศจีน มีอยู่สองแห่งที่รู้จักกันคือ ที่มณฑลซานตง ซึ่งมีลักษณะเป็นหุบเขาสูงชัน มีน้ำตก และเส้นทางเดินป่า และที่มณฑลกุ้ยโจว ซึ่งโด่งดังเรื่อง “ทุ่งหญ้าสีชมพู” ที่บานสะพรั่งในช่วงเดือนสิงหาคม – ตุลาคม และมีสะพานกระจกให้เดินชมวิวหุบเขา นั่งรถแบตเตอรี่ เข้าชมจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ขุนเขา ธารน้ำและทุ่งดอกไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ ในเขตปกครองตนเอง ของชนกลุ่มน้อยเผ่าเหมียวและปู้อี้ เฉียนหนาน
จากนั้นคณะฯ ได้ชมวิว ภูเขาหมื่นยอด และพิสูจน์ความกล้ากับสะพานกระจกที่มีความยาว 324 เมตร สูง 188 เมตร แล้วขึ้นบันไดเลื่อนขึ้นเขา 1 เที่ยว ชมวิวอันงดงามของยอดเขาที่หนาแน่นและแปลกตาจนได้รับการยกย่องจากผู้เชี่ยวชาญและนักท่องเที่ยวมากมาย ว่าเป็นสิ่งมทัศจรรย์ของโลก และชมทุ่งดอกไม้ตามฤดูกาลที่มีความสวยงามแวะถ่ายรูปตามจุดชมวิว จากนั้น
เวลา 12:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นเดินทางสู่ เมืองอันซุ่น โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อชมน้ำตกหวงกั่วซู่ ซึ่งเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน และปัจจุบันน้ำตกแห่งนี้ถือเป็นสัญสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวมณฑลกุ้ยโจว น้ำตกหวงกั๋วซู่ มีความสูง 74 เมตร กว้าง 81 เมตร ถ้ำหลังม่านน้ำตกมีความยาว 134 เมตร ซึ่งมีนิยายกล่าวถึงที่มาของน้ำตกแห่งนี้ว่า มีทางช้างเผือกได้พาดผ่านมาในบริเวณนี้ ทำให้แผ่นดินแตกแยกออกเป็นหน้าผาใหญ่ เกิดเป็นน้ำตกหวงกั่วซู่ และ น้ำตกใหญ่น้อยในบริเวณใกล้เคียง เมื่อทางช้างเผือกได้พาดผ่าน ไปแล้ว สะเก็ดดาวบนฟากฟ้าได้ตกลงมากลายเป็นป่าหินบนสระน้ำใส (ป่าหินเล็ก) และชมการแสดงแสงสีเสียงยามค่ำคืนที่ตกแต่งให้น้ำตกแห่งนี้สวยงามเล่า จากนั้น
เวลา 17:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหาร และกลับไปยังโรงแรมที่พัก

☆ วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 เวลา 07:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าของโรงแรม และร่วมออกเดินทางใช้เวลา 3 ชั่วโมง สู่หมู่บ้านอูเจียงจ้าย หมู่บ้านโบราณแห่งใหม่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก และเป็นหมู่บ้านที่คงความสงบและสวยงามอย่างแท้จริง จากนั้น
เวลา 12:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร จากนั้นเดินทางไปยังหมู่บ้านอู่เจียงจ้าย ชมความงามของหมูบ้านโบราณสไตล์จีน ให้ท่านได้สัมผัสความเป็นบ้านโบราณสมัยใบราณ ชมวิธีการทำเหล้าขาวที่มีชื่อเสียงของชนเผ่า และ ล่องเรือไม้ชมบรรยากาศสุดโรแมนติก สูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติ ต่อมา
เวลา 18:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร และเดินทางกลับยังโรงแรมที่พัก
☆ วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 เวลา 07:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าของโรงแรม และร่วมเดินทางกลับ ไปยังเมืองกุ้ยหยาง โดยใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง จากนั้น
เวลา 10:30 น. คณะฯ ได้ร่วมชมหอเจี่ยเชี่ยวโหลว สถานที่ท่องเที่ยวระดับ ต้นๆของประเทศจีน ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง เจี่ยเชี่ยวโหลวที่เห็นกันอยู่ในปัจจุบันเป็นหอที่สร้างขึ้นมาใหม่ในปีจักรพรรดิซวนถ่ง (ผู้อี๋) เมื่อ ค.ศ.1909 จากพื้นสะพานจนถึงยอดหลังคาหอ มีความสูงประมาณ 20 เมตร โดยมีหอทั้งหมด 3 ชั้น และในปี 2006 ทางคณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้หอเจี่ยเชี่ยวโหลว เป็น “สถานที่อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมสำคัญแห่งชาติ จากนั้น
เวลา 12:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร และเดินช้อปปิ้ง ณ ถนนคนเดินชิงหยุน ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองกุ้ยหยาง โดยสถานที่นี้ได้รวบรวมสิ่งของและอาหารมากมายในเมืองกุ้ยหยาง เช่น ตุ๊กตาไหม เต้าหู้ เหม็น ซาลาเปา ข้าวต้ม เค้ก บะหมี่ ไส้กรอก และอื่นๆ อีกมากมาย จากนั้น
เวลา 18:30 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร พร้อมร่วมปาร์ตี้ ร้องคาราโกเอะ และเข้าโรงแรมที่พัก

☆ วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 เวลา 07:00 น. คณะฯ ร่วมรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารเช้าของโรงแรม จากนั้นเดินทางสู่ สนามบินกุ้ยหยาง เพื่อเหิรฟ้ากลับสู่ กรุงเทพฯ โดยการทัศนศึกษาในครั้งนี้ ได้เพิ่มพูนความรู้และถือเป็นการพักผ่อนของทางสมาชิกชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย

ขอขอบคุณ
คุณพิพัฒน์ กนกนิตย์อนันต์

ประธานชมรมเครื่องมือเครื่องเหล็กแห่งประเทศไทย/ ที่ปรึกษานิตยสารตำรวจเพื่อมวลชน
สนับสนุนข้อมูลข่าวสาร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า